ทำงานแบบศรีธนญชัย! 'ก้าวไกล' ค้านปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กิจการโรงแรม 10 จ. ชี้ต้องเท่ากันทั่วประเทศ

'ก้าวไกล' หวังรัฐบาลปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ หลังขึ้นนำร่องแค่ 10 จังหวัด บอกกระทรวงแรงงานทำงานแบบศรีธนญชัย ทำงานมาไม่เคยเห็น ขึ้นค่าแรง 1 ตำบล



นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำบางพื้นที่ ปรับค่าแรงขั้นต่ำให้เท่ากันทั่วประเทศ ว่า สส.พรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วย กับมติของคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำที่จะปรับให้มีค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพร้อมกับประกาศ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ษ. ซึ่งการประกาศค่าจ้างนี้เป็นเฉพาะแค่กิจการโรงแรม ซึ่งมองว่าเป็นการปรับค่าจ้างแบบศรีธนนชัย ทั้งนี้ต้นเห็นด้วยกับการเพิ่ม อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ในทุก ๆ อุตสาหกรรมและต้องเท่ากันทั่วประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแบบนี้ เพราะทุกคนที่เป็นคนใช้แรงงาน ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน



นายเซีย กล่าวว่า ตนที่เคยทำงานกับผู้ใช้แรงงานมาเป็นเวลา 10 กว่าปีเข้าใจหัวอกของผู้ใช้แรงงานเป็นอย่างดี การเพิ่มค่าตอบแทนค่าจ้างขั้นต่ำจะทำให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ตนและเพื่อนสมาชิกหลายท่านเคยร่วมอภิปรายในสภาหลายครั้ง ว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่จะเพียงพอต่อการดำรงชีพ จะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ กระทรวงแรงงาน กับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ แค่ในบางพื้นที่ ตนจึงอยากจะบอกว่า การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเช่นนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน



นายเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่อ้างว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และ 10 พื้นที่เป้าหมาย เป็นพื้นที่ที่มี รายได้การท่องเที่ยวสูง ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง ตนจึงขอถามไปยัง กระทรวงแรงงาน ว่ากิจการประเภทอื่น พื้นที่อื่นนอกจากที่กำหนด ไม่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศหรือ เขาไม่จำเป็นต้องกินต้องใช้เหมือนแรงงานในเขตอื่น ๆ ใช่หรือไม่ ฉะนั้นการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ที่ไม่เท่าเทียมในแต่ละพื้นที่ และแต่ละประเภทกิจการนั้น เป็นการทำงานแบบศรีธนญชัย จะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในอนาคตเพิ่มมากขึ้น และเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานไปในพื้นที่ที่มีค่าตอบแทนสูงจนทำให้เกิดการกระจุกตัวไม่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคเชื้อเพลิง น้ำมัน ในแต่ละพื้นที่มีราคาไม่ต่างกัน ดังนั้นหากกระทรวงแรงงานเห็นความสำคัญของผู้ใช้แรงงานจริง ก็ต้องปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำให้เท่ากันทั้งประเทศ ทบทวนให้มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้



1. ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นไปตามสากล ครอบคลุมทุกภาคส่วน



2. ค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาทเท่ากันทั่วประเทศตามที่แกนนำพรรครัฐบาลเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมทั้งให้ปรับสูตรการคำนวณค่าแรงขั้นต่ำ ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง



ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการจัดค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2570 อย่างแน่นอน ซึ่งในส่วนของพรรคก้าวไกล ขอเสนอให้รัฐบาลปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 450 บาทเท่ากันทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการจัดสวัสดิการให้กับประชาชนทุกช่วงวัย และปรับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยประกาศ สำนักคณะกรรมการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรืออัตราเงินเฟ้อตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์



เมื่อถามว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานไม่สามารถ จัดค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศได้ โดยเฉพาะสูตรค่าจ้างที่คิดจากการเติบโตเศรษฐกิจ มีความเห็นว่าอย่างไร ในเซียร์กล่าวว่า กระทรวงก็มีร้อยเหตุผล แต่อยากให้มองชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน ซึ่งในการคำนวณของพรรคก้าวไกล ประกาศว่าจะต้องเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ



ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวถึง สูตรการคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำ ว่าที่ผิดหลัก ทำให้การคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำมีปัญหา และน้อยกว่าที่ควรจะเป็นซึ่งที่ผ่านมาสำนักค่าจ้าง กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งอนุกรรมการศึกษาค่าแรงใหม่ แต่ผลที่ได้กลับไม่ต่างจากเดิม ซึ่งหากคำนวณตามสูตร ไม่มีทางเป็น 400 บาท แต่วันนี้การขึ้นค่าแรง 400 บาท หากใช้การคำนวณไม่น่าจะถึง มีการใช้สูตรจริงหรือไม่ ซึ่งหากขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้มักจะมีการอ้าง คณะกรรมการไตรภาคี แต่วันนี้ขึ้นได้เป็นเพราะคณะกรรมการไปภาคีหรือเป็นผลงานของรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำถือเป็นผลงานใครกันแน่



นายเซีย กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเห็นอัตราการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เฉพาะแค่ 1 ตำบลในลักษณะนี้มาก่อน พวกเราไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ากระทรวงแรงงานทำงานแบบไหน จึงอยากให้ฉายารัฐบาลและกระทรวงแรงงาน นี้ว่าศรีธนญชัย