ลุงวัย 73 ท้าเปิดวงจรปิด อ้างถูก ตร.ชลบุรี ใส่กุญแจมือ กระทืบน่วมต่อหน้าลูก

ชายวัย 73 อ้างถูกตำรวจชลบุรี ใส่กุญแจมือทำร้ายร่างกาย หลังมีปากเสียงปมทะเลาะกับลูกแล้วไปแจ้งตำรวจ ก่อนอ้างถูกตำรวจกระทืบซ้ำอีก 

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอให้ช่วยเหลือจากนายจำรัส ดอกไม้ไหว อายุ 73 ปี เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย พร้อมใส่กุญแจมือพันธนาการตนไว้และลงมือกระทืบ จนได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกาย

โดยลุงจำรัส ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ตนมีลูกสาวทั้งหมด 3 คน ซึ่งได้พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดชลบุรีกับลูกๆ และภรรยา เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. ตนจะไปทำบุญที่วัด ซึ่งมีการจัดงานฝังลูกนิมิต จึงอยากจะนำพัดลมไปบริจาค จึงขึ้นไปบ้านลูกสาวคนเล็กเพื่อจะไปขอพัดลม โดยปกติแล้วลูกสาวคนเล็กและลูกเขยชอบบริจาคสิ่งของช่วยเหลือสังคมต่างๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร

แต่เมื่อตนขึ้นไปบนบ้านพบลูกสาวคนเล็ก พูดเพียงไม่กี่คำ ลูกสาวคนเล็กได้เดินเข้ามาตบตนที่ใบหน้าอย่างแรงหลายที ตนรู้สึกโมโหและเสียใจมาก จึงได้นั่งรถไปที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้าน เมื่อไปถึงก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ร้อยเวรฟัง จากนั้นร้อยเวร ได้ให้เจ้าหน้าที่มาที่บ้าน ซึ่งตนก็ติดรถกระบะของตำรวจมาด้วยโดยนั่งท้ายกระบะ แต่ร้อยเวรไม่ได้มาด้วย

เมื่อมาถึงบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินเข้าไปในบ้าน โดยตนรออยู่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินออกมาพร้อมบอกว่า "ลุงผิด ลุงไปบุกรุกบ้านเขา" ด้วยความโมโห ตนจึงตอบกลับไปว่า "หากเป็นแบบนี้ สีกากีก็พึ่งพาไม่ได้แล้วแหละสิ " เมื่อพูดจบเจ้าหน้าที่กำลังจะเปิดประตูรถเพื่อขึ้นรถ จึงหันลงมาโต้เถียงกับตน และผลักกันไปมา

จากนั้นมีเจ้าหน้าตำรวจอีกรายลงมาจากรถ พร้อมนำกุญแจมือใส่และกระทืบเข้าที่ขา ต้นคอ ลำตัว ซึ่งในระหว่างที่เกิดเรื่องนั้น มีลูกสาวคนกลางและลูกสะใภ้อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนต่างพากันขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจให้หยุดทำร้ายตน หลังจากที่ตนไม่สามารถขัดขืนได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาปลดกุญแจมือและขึ้นรถขับออกไปจากจุดเกิดเหตุ

หลังเหตุการณ์จบลง ลูกสะใภ้ได้พาตนเข้าไปที่บ้านและทำการดูบาดแผล แต่ตนห่วงความไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจออกมาจากบ้านที่ชลบุรี กลับมายังบ้านเกิดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตนอยากจะขอความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ซึ่งตนยืนยันที่เล่ามาทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์จริง สามารถตรวจสอบวงจรปิดได้ ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุจะมีวงจรปิด ช่วงเวลา 10.00 - 12.00 น

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้พาลุงจำรัส ไปแจ้งความเพิ่มเติมที่ สภ. ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมตรวจร่างกาย และตรวจสอบข้อเท็จจริงกับตำรวจเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป