สังคม

ชายพิการโวยถูกยึดรถสามล้อ ตำหนิราชการไม่จริงใจ จนท.ต้องคืนรถให้ เจ้าตัวมุ่งหน้าเข้ากรุง

โดย thichaphat_d

6 ก.พ. 2567

3.7K views

จากกรณี นายมณฑล เพ็ชรสังข์ อายุ 48 ปี ชาวตำบลแม่สำ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ชายพิการ ถูกตัดสิทธิเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท ตั้งแต่ปี 2563 แถมไม่มีบัตรประชาชน ตัดสินใจโยกรถสามล้อจากสุโขทัย มุ่งหน้ากรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ เพื่อไปทวงสิทธิของตัวเอง ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีตำรวจสายตรวจ สภ.ไชโย จ.อ่างทอง พบเห็นบริเวณริมถนนสายเอเชีย จึงเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และเมื่อเป็นข่าวได้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าให้ความช่วยเหลือ แต่เจ้าตัวยังยืนยันจะโยกรถเดินหน้าเข้า กทม. เพื่อขอเป็นกระบอกเสียงแทนเพื่อนคนพิการ

ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงเช้ามืดของวันที่ 6 ก.พ.2567 นายมณฑลระบุว่า ถูกยึดรถสามล้อที่ใช้เดินทางจนไปต่อไม่ได้ หลังเข้าไปพักที่วัดตานิม หลังเมรุ อำเภอบางปะหัน โดยเจ้าหน้าที่อ้างจะนำสามล้อไปซ่อมให้ ซึ่งจะเสร็จในช่วงเช้า จึงเก็บสัมภาระทั้งหมด คลานออกมาจากที่พักหลังเมรุ เพื่อเดินทางไปแจ้งความเอาผิดคนที่ยึดรถสามล้อ ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ต่อตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ และมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล

ในขณะที่ฝ่ายปกครองกำนันตำรวจ โรงพักบางปะหัน ที่ดูแลความปลอดภัย พยายามเกลี้ยกล่อมแต่ถูกนายมณฑล ชี้หน้าเกรี้ยวกราดใส่และพยายามให้ถ่ายทอดสด เรื่องราวของตนให้โลกโซเชียลได้รับทราบ พร้อมตำหนิต่อว่า การทำงานของส่วนราชการ ที่ไม่จริงใจต่อประชาชน คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุทำให้นายมณฑลมีความกดดันจึงโยกสามล้อมาประท้วงครั้งนี้

ล่าสุดตำรวจโรงพักบางปะหันนำรถสามล้อส่งคืนให้นายมณฑลแล้ว หลังพยายามจะคลานไปแจ้งความที่โรงพักบางปะหัน จากนั้นนายมณฑลจึงโยกสามล้อออกมาจากที่พักหลังเมรุวัดตานิม โดยผ่านตลาดบางปะหันแล้ว มุ่งหน้าถนนสายเอเชีย ซึ่งหากร่างกายยังไม่เมื่อยล้า ก็จะโยกสามล้อผ่านมาถึงอำเภอนครหลวง เข้าสู่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ผ่านศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าท้องที่อำเภอบางปะอินของจังหวัดอยุธยา แล้วเข้าสู่จังหวัดปทุมธานีมุ่งหน้า กรุงเทพฯ ตามเป้าหมาย ที่จะไปร้องเรียน ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกลุ่มเปราะบางตามตั้งใจ พร้อมบอกว่าจะไปกระทรวง พม. เพื่อไปพบรัฐมนตรีด้วย

โดยมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละท้องที่ ติดตาม เฝ้าระวัง พร้อมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย เป็นระยะ ท่ามกลางจราจร บนถนนสายเอเชีย ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน มีจำนวนรถปริมาณมาก

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งจากทีมกู้ภัยที่ขับรถดูแลความปลอดภัย พบว่านายมณฑล ได้เปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ ไลฟ์เป็นระยะ เพื่อให้สังคมในโลกออนไลน์ ได้เห็นความมุ่งมั่น ความต้องการ เป้าหมายของตัวเองที่จะไปร้องเรียน ขอความเป็นธรรม ให้กับกลุ่มเปราะบาง

คุณอาจสนใจ

Related News