สังคม
ไม่คืบหน้า! หนุ่มส่ง 'พระเครื่อง' พัสดุหายเป็นเดือนเรื่องเงียบ ซ้ำตร.แจ้งให้ไปเชิญ 'ไปรษณีย์' มาคุยเอง
โดย paweena_c
29 ม.ค. 2567
273 views
ผ่านเป็นเดือนไม่คืบหน้า! หนุ่มจี้ 'ไปรษณีย์ไทย - ตำรวจ' รับผิดชอบ หลังส่งพระเครื่อง พัสดุหายเป็นเดือนยังจับคนร้ายไม่ได้ ซ้ำแจ้งตำรวจ ถูกให้ไปเชิญ 'ไปรษณีย์' มาคุยเอง ลั่นเป็นผู้เสียหายแต่ต้องทำเองทุกอย่างขนาดนี้ ไม่ยุติธรรม
จากกรณีมีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่า มีการส่งพระเครื่องเป็นพัสดุไปรษณีย์ แต่เกิดการสูญหายที่คลังเก็บวัสดุ ที่ไปรษณีย์ จังหวัดสมุทรปราการนั้น (อ่านข่าว: ไม่ใช่ชดใช้ 2 พันแล้วจบ! หนุ่มจี้ไปรษณีย์ไทย หาตัวคนร้าย หลังพระเครื่อง 2 แสนสูญหาย จากคลังพัสดุ)
ความคืบหน้าล่าสุดของประเด็นดังกล่าว คุณพล (นามสมมติ) เล่าให้นักข่าวฟังว่า หลังจากเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข่าว ทางไปรษณีย์ก็มีการออกแถลงการณ์มาว่า จะเร่งตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมกรณีดังกล่าว เพื่อติดตามหาผู้ที่กระทำผิด ขณะที่ผู้อำนวยการของไปรษณีย์ก็มีการติดต่อมาแจ้งว่า จะเร่งดำเนินการให้ ให้โดยให้เราทำหนังสือส่งไปที่ไปรษณีย์ส่วนกลาง เป็นหนังสือแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาตนเองจึงไปร้องที่ สน.บางนา เนื่องจากพัสดุต้นทางส่งจากพื้นที่ดังกล่าว ตำรวจสน.บางนาแจ้งว่าต้องไปแจ้งความที่ สน.สมุทรสาคร เนื่องจากของหายในพื้นที่ของไปรษณีย์สมุทรสาคร เพื่อที่ให้ตำรวจในพื้นที่ดังกล่าวมีสิทธิ์ในการค้นหาดำเนินการ ตนเองจึงติดต่อไปยัง สน.สมุทรสาคร ตามคำแนะนำ
เมื่อติดต่อไปแล้ว ตำรวจที่สน.สมุทรสาคร แจ้งว่าจะต้องไปเชิญเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ของสมุทรสาครมารับฟังข้อกล่าวหาด้วย เนื่องจากเป็นคู่กรณีกัน โดยดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1.ดำเนินการทางอาญา เนื่องจากเป็นกรณีของหาย และอาจต้องดำเนินการผ่าน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา เพราะเป็นหน่วยงานของราชการ ส่วนที่ 2.ดำเนินการในทางแพ่ง เพื่อเรียกเงินตามมูลค่าทรัพย์สินที่หายไป
ที่ผ่านมาส่งหนังสือไปยังไปรษณีย์ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ แต่นอกจากหนังสือชี้แจงก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า และยังจับคนผิดไม่ได้ เมื่อประสานไปที่ตำรวจ เจ้าก็ไม่ประสานงานต่อให้ ซ้ำยังบอกให้ตนเองไปเชิญไปรษณีย์มาคุยเอง เนื่องจากเป็นคู่กรณีกัน
ส่วนตัวมองว่า ตอนนี้ตนเองที่เป็นผู้เสียหายแต่จะต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมดมันไม่ยุติธรรม ทั้งโทรไปแจ้งความ ต้องนัดเจ้าหน้าไปรษณีย์เอง ทำให้ตนเองเสียเวลา ทั้งยังต้องลางานไปเดินเรื่องต่าง ๆ เองอีก มองว่าเรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว เพราะของหายตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ตำรวจควรจะช่วยดำเนินการแจ้งความคืบหน้า ส่วนไปรษณีย์ก็ควรจะดำเนินการหาคนร้ายให้ได้ เพราะของหายในภายในองค์กร ไปรษณีย์ควรต้องรับผิดชอบ
ตอนนี้พระที่ถูกขโมยไปก็คงไม่ได้คืนแล้ว แต่อยากให้ไปรษณีย์ชดเชยค่าเสียหายต่อกรณีดังกล่าว แต่จะชดเชยเท่าไหร่ก็ต้องมาคุยกัน อยากจะให้รับผิดชอบ
คุณพลบอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อส่งพัสดุก็จะส่งกับไปรษณีย์ตลอด แม้ค่าส่งจะแพงกว่าบริษัทส่งรายอื่นก็ตาม แต่ก็ยังใช้บริการเพราะเชื่อใจ คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ของหายขึ้น ขณะที่ไปรษณีย์ก็ไม่ได้เร่งแก้ไขปัญหา และแสดงความรับผิดชอบเท่าที่ควร ก็มองว่าหันไปใช้บริการส่งพัสดุกับบริษัทอื่นดีกว่า จะจ่ายแพงไปทำไม ในเมื่อของก็หายเหมือนเดิมไม่มีอะไรดีกว่า เพราะไปรษณีย์ไทยไม่มีความน่าเชื่อถือแล้ว
จากนี้หวังว่าถ้าผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องเห็นข่าวและทราบเรื่องนี้แล้ว ก็อยากจะเร่งดำเนินการให้มีความคืบหน้า ไม่ใช่ปล่อยเบลอให้เรื่องเงียบไป โดยไม่แก้ไขปัญหาอะไรเลย