น้าพาหลานร้องสายไหมต้องรอด แม่ขี่จยย.พาไปซื้อของขวัญวันเด็ก ถูกเก๋งชนแล้วหนี อาการสาหัส-หลานบาดเจ็บ

วันที่ 14 มกราคม 2567 ญาติผู้เสียหายเข้ามาร้องเพจสายไหมต้องรอด แม่ถูกรถชนแล้วหนีอาการสาหัส ขณะพาซื้อของขวัญวันเด็ก จนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน ส่วนลูกชายทำได้แค่นั่งมองแม่ที่นอนอยู่กลางถนน


โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นกับนางสาววราภรณ์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยลูกชายอายุ 8 ขวบ ถูกรถเก๋งชน บริเวณถนนบรมราชชนนี ถนนกาญจนาภิเษก เขตตลิ่งชัน โดยนางสาววราภรณ์นอนนิ่งอยู่กับพื้น ใกล้กันลูกชาย ที่บาดเจ็บเป็นแผลถลอกตามตัว นั่งมองแม่อยู่ไม่ห่าง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฐมพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม ช่วงเวลา 20.20 น. หลังเกิดเหตุรถเก๋งที่ขับชน หลบหนีไม่ลงมาช่วยดูผู้บาดเจ็บ


หลังเกิดเหตุจนถึงวันนี้ผ่านมาแล้ว 2 วัน ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นเจ้าของคดียังไม่ประสานอะไรกลับมา ครอบครัวกังวลว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้นายสรศักดิ์ จึงพาหลานชาย ซึ่งเป็นลูกของนางสาววราภรณ์ มาพบกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด


นายสรศักดิ์ ซึ่งเป็นน้องชายของนาวสาววราภรณ์ เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุนางสาววราภรณ์ ขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะพาลูกชายไปซื้อของขวัญ และเสื้อผ้า เนื่องในวันเด็ก มุ่งหน้าสถานีขนส่งสายใต้ แต่ระหว่างนั้นที่จะถึงทางแยก จู่ๆมีมีรถเก๋งขับมาเฉี่ยวชนบริเวณท้ายรถจนรถเสียหลักล้มลง จนทำให้หัวของสาวสาววราภรณ์ฟาดพื้น แล้วถูกรถจักรยานยนต์ของตัวเองทับอีก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนหลานชายก็กลิ้งไปตามแรงรถ ก่อนจะวิ่งกลับมาดูแม่ที่นอนเจ็บอยู่กลางถนน ก่อนที่ในอีก 30 นาที จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ


นายสรศักดิ์ ยังบอกว่า นางสาววราภรณ์ได้รับบาดเจ็บหนักที่หัว เนื่องจากไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค ตอนนี้ความดันต่ำลงเรื่อยๆ ม่านตาไม่ตอบสนอง น้ำท่วมปอด อวัยวะภายในมีเลือดคั่ง โดยแพทย์เจ้าของไข้ระบุว่า หากอาการยังเป็นแบบนี้คาดว่า จะยื้อชีวิตไว้ได้อีกไม่เกิน 72 ชั่วโมง ส่วนหลานชายที่ซ้อนรถจักรยานยนต์ไปด้วยมีแผลกถลอกที่แขน และท้อง


นายสรศักดิ์ ยอมรับว่า ขณะที่เกิดเหตุหลานชายจำทะเบียนรถของผู้ที่ขัยรถชนไม่ได้ จำได้เพียงเป็นรถเก๋ง สีดำ จึงวอนขอให้ผู้ที่ขับรถในจังหวะที่เกิดเหตุ หากมีกล้องหน้ารถขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสะอีกแรง อยากจะให้ผู้ที่ขับรถชนพี่สาวมารับผิดชอบ เนื่องจากพี่สาวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกชายคนเดียว


ขณะที่สายไหมต้องรอด รับปากจะประสานสน.ตลิ่งชัน เจ้าของคดีให้ช่วยเร่งรัดคดี โดยเฉพาะการหาพยานหลักฐาน เช่นภาพจากกล้องวงจรปิด เส้นทางหลบหนีของรถเก๋ง สีดำ คันก่อเหตุชนแล้วหนี เพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้บาดเจ็บ