โอละพ่อ หนุ่มอ้างถูกโจ๋กว่า 10 คน ไล่ยิงโดนขาเจ็บ ที่แท้ปืนลั่นใส่ตัวเองตอนวิ่งหนี

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 23.30 น. ร.ต.อ.วุฒิกิจ บัวนวล รองสว.สอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ  มีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่อริได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยนุชพงษ์ ริมถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุพบนายวีรยุทธ อายุ 21 ปี นอนได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณหน้าแข้ง ขาข้างซ้าย กระสุนทะลุ 1 นัด จมกองเลือดก่อนทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยปฐมพยาบาลบื้องต้นก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลไทรน้อย


ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.66  ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านพักแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สอบถามนายวีรยุทธ หรือไกด์ อายุ 21 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนกับรุ่นน้องได้ขี่จยย.เดินทางมาจากสุเหร่าโต๊ะนุ้ย ​โดยตนเป็นคนซ้อน รุ่นน้องเป็นคนขี่ ขณะที่ขี่ไปทางหน้าอำเภอไทรน้อยเพื่อจะกลับบ้าน เจอวัยรุ่นขี่รถจยย.มา 2 คัน 4 คน ได้ตะโกนโวยวายอะไรสักอย่าง


ตนจึงจอดรถจยย.ถอดหมวกกันน็อคเพื่อจะถามว่าตะโกนอะไร เพราะตนไม่ได้ยินที่วัยรุ่นพูด ปรากฎว่าฝั่งวัยรุ่นดังกล่าวชักมีดขึ้นมาแล้วขี่จยย.ไล่กวดตน ตนจึงขี่รถจยย.หนีไปซักพัก ไม่นานเจอวัยรุ่นอีกกลุ่มอัดซ้อนท้าย จยย.มา 7-8 คัน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงให้น้องขับจยย.หลบหนี ขณะจะขี่เข้าซอยที่เกิดเหตุได้เสียหลัก จยย.ล้ม ที่หน้าปากซอย


จากนั้นตนจึงรีบลุกแล้ววิ่งเข้าไปในซอย ปรากฎว่าได้ยินเสียงปืนปนะมาณ 1-2 นัด แล้วตนก็ถูกยิงบริเวณขาข้างซ้าย ทางกลุ่มวัยรุ่นก็ขับหนีไป ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับทางด้านคู่กรณีมาก่อนเท่าที่เห็นทางคู่กรณีมีอาวุธครบมือทุกคนทั้งมีดทั้งปืน ส่วนอาการบาดเจ็บตอนนี้ตนปวดขาเดินไม่ได้ ส่วนรุ่นน้องที่ไปด้วยมีแผลถลอกตามข้อศอก ตนถามน้องว่ามีปัญหากับใครหรือไม่ น้องบอกไม่มีซึ่งรุ่นน้องคนนี้อยู่กับตนตลอด ตอนนี้อยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย


ด้าน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนหลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด ปรากฎว่าจากการสืบสวนทราบว่า ทางผู้บาดเจ็บได้พกปืนไทยประดิษฐ์ไว้ขณะวิ่งหนีเข้าไปในซอยบริเวณจึดเกิดเหตุได้เกิดการลั่นออกมาทำให้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตอนนี้ให้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป