สังคม

สาววัย 19 ถูกปล่อยตัวแล้ว หลังถูกหลอกไปทำงานปอยเปต เรียกค่าไถ่ 5 หมื่น - ขู่ช็อตไฟฟ้า

โดย chiwatthanai_t

2 ธ.ค. 2566

144 views

ความคืบหน้ากรณี น.ส.พัชราพร อายุ 39 ปี แจ้งความว่าน.ส.อทิตยา หรือน้องมิ้น อายุ 19 ปี ลูกสาวถูกเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งถูกจับตัวข้ามมาที่ปอยเปต กัมพูชาแล้ว ก่อนจะขาดการติดต่อตั้งแต่แม่วานที่ผ่านมา (1 ธ.ค.66) หลังจากน้องมิ้นตั้งใจเดินทางไปทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนครู แต่เงินไม่พอ


ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นพื้นที่ไปที่บ้านของน้องมิ้นอีกครั้ง ภายหลังทราบจากแม่ของน้องมิ้นว่า น้องมิ้นปลอดภัยถึงบ้านแล้ว โดยมีญาติพี่น้องเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาผูกแขนเรียกขวัญน้องมิ้นกลับมาตามความเชื่อ ซึ่งทุกคนต่างดีใจที่น้องมิ้นอยู่รอดปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับน้องมิ้นและแม่ ซึ่งทั้งคู่ยังอยู่ในอาการดีใจและโล่งใจ และมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานโทรศัพท์เข้ามาสอบถามคุณแม่อย่างไม่ขาดสาย ภายหลังจากที่ทุกคนทราบว่าน้องมิ้นปลอดภัย โดยคุณแม่ไปรับที่จังหวัดสระแก้วเมื่อคืนที่ผ่านมา และเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ประมาณ 10.30 น. ซึ่งก็มีญาติผู้ใหญ่เพื่อนบ้านผู้สูงอายุในหมู่บ้านต่างนำฝ้ายมาผูกแขนเรียกขวัญ ตามความเชื่อประเพณีของคนในพื้นที่


น้องมิ้น ให้สัมภาษณ์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เริ่มแรกเลยตนเองใจว่าจะทำงานเพื่อหาเงินมาส่งตัวเองเรียน ไม่อยากให้เป็นภาระของครอบครัว เพราะบ้านก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่ส่วนตัวอยากเรียนมาก จึงไปโพสต์หางานในโซเชียลกระทั่งมีคนทักมาเรื่องงาน หลังจากที่ตนเองโพสต์ไปก็ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับงานดังกล่าวจากคนที่ติดต่อมาในแชทส่วนตัว บอกว่าเป็นงานออฟฟิศ แลกเหรียญ ถูกกฎหมาย ได้รับค่าตอบแทนสัญญารายสองเดือน เป็นเงินจำนวน 35,000 บาท ทำงานอยู่ที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ไม่ได้ข้ามไปทำงานต่างประเทศ ด้วยความที่ไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลยครั้งนี้เป็นครั้งแรก และมีความตั้งใจว่าต้องการหาเงินส่งตัวเองเรียนไม่อยากให้เดือดร้อนครอบครัวจึงตัดสินใจเดินทางไปตามที่พูดคุยกัน



เมื่อไปถึงที่ บขส.สระแก้ว ก็มีคนจากบริษัทนั้นพาขึ้นเรือไปกับผู้โดยสารอีกหลายคน โดยพูดเป็นภาษาไทยบอกให้ทุกคนขึ้นเรือเท่านั้น ไม่ได้อธิบายอะไร พอทุกคนขึ้นเรือไปจนหมดเรือแล่นไปได้สักพักก็ได้ยินภาษาที่เขาพูดกันไม่ใช่ภาษาไทย คิดว่าเป็นภาษาเขมร ก็เริ่มใจไม่ดี ว่าจะโดนหลอกมาทำงาน เมื่อไปถึงพบว่าเป็นอาคารคล้ายโรงแรมด้านหน้ามีร้านเหล้า ภายในมีคาสิโน อาคารสวยงาม ก่อนจะเข้าไปยังห้องพักซึ่งอยู่ตรงข้ามกับออฟฟิศ โดยมีบอสเป็นผู้ชายชาวจีน และมีล่ามเป็นหญิงคนไทย เมื่อไปถึงก็ถูกยึดโทรศัพท์เหลือเพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้า ไปอยู่ภายห้องพักรวมกับคนอื่นๆอีกเกือบ 10 คน โดยมีเพียงเตียงสองชั้นให้อัดกันอยู่ บางห้องอยู่กันถึง 10 กว่าคนก็มี ช่วงที่ทำงานอยู่ในนั้นไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้สามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้เลย


กระทั่งบอสซึ่งเป็นชายชาวจีนให้ล่ามแปลให้ฟังว่า ครอบครัวตนเองโพสต์ตามหา ทำให้ตนเองทราบว่าพ่อแม่เป็นห่วง จึงขอกลับ แต่ทางบอสไม่ยอมให้กลับ พร้อมให้ล่ามแปลภาษา ขู่ตนเองว่า มึงอยากโดนช็อตไหม อยากโดนเหมือนแม่โพสต์ไหม ทำให้ตอนนั้นตนเองกลัวอย่างมาก ก็บอกไปว่าไม่อยากโดน บอสจึงให้คุยกับแม่ตามที่พูดว่า ให้เอาเงินมา 50,000 บาท โดยจะปิดใหม่แล้วบอกให้พูดตาม ซึ่งขณะนั้นด้วยความกลัวก็ต้องทำตาม ก่อนจะมาเล่าให้เพื่อนในที่ทำงานฟังว่าถูกเรียกเงิน 50,000 ถึงจะได้ปล่อยตัวกลับ ซึ่งเพื่อนในที่ทำงานก็พากันช่วย โดยมีผู้คุมเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้เป็นคนช่วยเจรจากับบอสให้ เพราะเห็นโพสต์ของแม่ที่โพสต์ตามหา จนบอสยอมปล่อยตัว โดยผู้คุมบอกว่าถ้าไม่อยากให้เสียธุรกิจนี้ ก็ควรปล่อยไปเพื่อไม่ให้ธุรกิจต้องพัง ทำให้บอสยอมปล่อยกลับมา ซึ่งผู้คุมที่เป็นคนไทยบอกกับตนเองเพียงว่าดีใจด้วยนะได้กลับประเทศไทยแล้ว ก่อนจะนั่งเรือข้ามกลับมาที่อพาร์ทเมนท์ที่สระแก้ว และใช้มือถืออพาร์ตเมนท์โทรบอกแม่ไว้ว่าพรุ่งนี้จะกลับบ้าน กระทั่งแม่ขับรถมากับน้ามารับถึงอพาร์ทเมนท์ ซึ่งวินาทีนั้นทั้งดีใจรีบกระโดดกอดแม่และขอโทษแม่ จะไม่ทำแบบนี้อีก และคงไม่คิดหางานที่อีกแล้ว เพียงเจตนาเพราะอยากหาเงินส่งตัวเองเรียนเท่านั้น



ด้านแม่ของน้องมิ้นท์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ดีใจอย่างมากที่ลูกสาวปลอดภัย เมื่อวาน ได้รับการติดต่อกลับจากลูกสาวซึ่งใช้เบอร์อพาร์ทเม้นท์โทรมาบอกว่าปลอดภัยถึงแผ่นดินไทยแล้ว พรุ่งนี้จะเดินทางกลับขอนแก่น แต่ด้วยความร้อนใจของแม่จึงรีบขับรถไปกับน้องสาว ซึ่งเห็นอพาร์ทเม้นท์อยู่ใกล้กับบขส. จึงเข้าไปสอบถามและทราบจากคนดูแลอพาร์ตเม้นต์ว่าน้องอยู่ในห้องพักของอพาร์ตเมนต์นี้พอไปเคาะห้องทีแรกไม่ใช่คิดว่าจะโดนหลอก จึงลงมาถามคนดูแลอพาร์ทเม้นท์บอกว่าบอกห้องผิดก่อนจะไปเคาะห้องพักที่ลูกสาวอยู่และพอเปิดประตูมาก็พบลูกสาวจริงๆจึงโทรด้วยความดีใจและรีบพากลับบ้านทันที วินาทีที่เห็นลูกสาวดีใจอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือทำให้น้องสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์บอกว่า ลูกสาวตนเองถือว่าปล่อยตัวออกมาได้เร็วที่สุดเท่าที่มีมา


นอกจากนี้ยังมีญาติญาติพี่น้องที่มารอรับลูกหลานที่ไปทำงานที่เดียวกันกับลูกสาวของตนเองด้วยอีกหลายคนบางคนไปทำงานเป็นเดือนก็ยังไม่ได้กลับมาก็มี ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายภาคส่วนโทรศัพท์เข้ามาขอข้อมูลไปแล้วซึ่งก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลืออีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News