สังคม

‘พนักงานคุมประพฤติ’ เมาแอ๋ ซิ่งรถคว่ำทางลงอุโมงค์ ไม่สำนึกถือกระป๋องเบียร์ขึ้นรถตำรวจ

โดย nicharee_m

28 พ.ย. 2566

464 views

พนักงานคุมประพฤติอาวุโส เมาแอ๋ควบเก๋งซิ่ง คว่ำกลางทางลงอุโมงค์ท่าพระ คู่กรณีเผยถูกตามชน ผู้ก่อเหตุเหมือนไม่สำนึกถือกระป๋องเบียร์ขึ้นรถตำรวจ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนนรัชดา-ท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจุดเกิดเหตุดังกล่าวพบรถยนต์ ยีห้อฮอนด้า อยู่ในลักษณะพลิกคว่ำล้อช้าฟ้า

ซึ่งพบเจ้าของรถยนต์ดังกล่าว ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นายสุเวศน์ อายุ 50 -55 ปี ซึ่งเป็นพนักงานคุมประพฤติชำนาญการ อยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก นั่งอยู่ใกล้เคียงกับรถยนต์ของตน และใกล้กันยังพบกับรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า ซึ่งมีนายกร เป็นเจ้าของรถจอดอยู่และต่อมาจึงทราบว่าเป็นรถคู่กรณีกัน

จากการสอบถามคุณกร อายุ 49 ปี คนขับรถมาสด้าคู่กรณี กล่าว่า ตนเองจอดรถซื้อของอยู่ข้างทางแล้วทางคู่กรณีมาจอดแล้วมาชนท้ายรถของตน พอตนเองจะเดินไปพูดคุยเคาะประตู 3-4 รอบ ก็ไม่ยอมออกมาคุยตนเองก็นึกในใจว่าเขาเมาหรือเป็นอะไรหรือเปล่า

พอเขาออกมา แล้วเขาบอกว่าเขามีปืน ตนเองก็เลยถอยออกมา เพื่อมาขยับรถเดินหน้า และลงมาดูว่ารถของตนเองเป็นอะไรหรือเปล่า แต่พอดูแล้วว่าไม่เป็นอะไร ก็เลยรีบออกมา เพื่อจะไปทำงาน และจะรีบไปส่งแฟน แต่คู่กรณีก็ยังขับรถตามมาเปิดไฟเลี้ยวตามมา พอตนหลบเข้าซ้าย เขาก็หักรถมาชนเลย เหมือนกับเขาตั้งใจที่จะชนเลย ตนเองก็งง

ตนเองยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเขา แล้วตนเองก็มาจอดอยู่ตั้งนานแล้ว จอดซื้อของจอดซื้อกับข้าว และก็รู้อยู่ว่ารถของคู่กรณี มาจอดชนท้ายรถของตน และตนเองก็ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งนั้น ตนเองก็เลยคาดว่าคู่กรณีเมาหรือเปล่า และหลังจากคู่กรณีชนท้ายรถของตนแล้ว ก็ไม่เคยลงมาคุยอะไรกันเลย นอกจากจะขับรถตามมาจี้ท้ายรถของตนอย่างเดียว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายสุเวศน์ ไปสอบถามเหตุการณ์เพิมเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.ท่าพระ และได้นำรถยกมาเก็บกู้รถยนต์ของนายสุเวศน์ เพื่อเปิดการจราจรแล้วนำรถยนต์คันดังกล่าวไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่ สน. ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

แต่ระหว่างที่ นายสุเวศน์ เดินเซด้วยอาการมึนเมาเพื่อจะไปขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นในมือยังถือกระป๋องเบียร์ขึ้นไปบนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งใครเห็นแล้วก็จะรู้สึกว่า นายสุเวศน์ ไม่สำนึกในความผิดที่ตนก่อขึ้นในครั้งนี้ และเป็นการไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองในเรื่องของการผิดต่อข้อกฎหมายจราจร

สำหรับกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ได้เพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำกรณี “เมาแล้วขับ” โดยกำหนดบทลงโทษผู้เมาแล้วขับ ดังนี้ 1.ทำผิดครั้งแรก อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท

2. ทำผิดซ้ำข้อหา “เมาแล้วขับ” ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท โดยศาลจะลงโทษจำคุก และปรับด้วย พร้อมถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

3. เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ เสียชีวิต โทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที



คุณอาจสนใจ

Related News