2 ครูโหดตีด.ญ. ป.6 จนนั่งไม่ได้-ไข้ขึ้น เหตุไม่ทำการบ้านส่ง

สองครูโหดตีเด็ก ป.6 ยอมขอโทษเด็กและคุณตา หลังตีเด็กนักเรียนถึง 18 ที จนนั่งไม่ได้และมีอาการไข้ขึ้น เหตุเพราะไม่ทำการบ้านส่งครู พร้อมทั้งมอบกระเช้าเครื่องดื่มชูกำลังต่อหน้าสื่อมวลชน โดยมี ผอ.โรงเรียน และรอง ผอ.เป็นพยาน รับปากว่า จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

วันนี้ (14 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเด็กนักเรียนโดนครูตีโหด จำนวน 18 ที จนนั่งไม่ได้ โดยญาติร้องเรียนผู้สื่อข่าว ภายหลังมีการนำภาพเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า เป็นครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระแก้ว ซึ่งขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงที่เด็กกำลังเรียนหนังสือในห้องเรียน โดยครูได้เรียก ด.ญ.แก้ม (นามสมมุติ) เด็กเรียนชั้น ป.6/5 ที่ทำงานส่งครูไม่เสร็จ และได้โดนครูทำโทษโดยใช้ไม้เรียวตี

โดยครูคนแรกที่เข้ามาสอนก่อน ได้ตีน้อง จำนวน 6 ที จนกระทั่ง ครูคนที่สอง ที่เข้ามาสอนต่อ และเด็กนักเรียนไม่ได้ส่งงานเหมือนกัน จึงโดนตีเพิ่มอีก 12 ที รวมเป็น 18 ที ซึ่งหลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ขณะที่เด็กกลับไปที่บ้าน ไม่กล้าบอกญาติและผู้ปกครอง แต่ในตอนเย็นขณะเด็กกลับมาบ้านในชุมชน จนเพื่อนบ้านเห็นท่านั่งของเด็ก นั่งแบบเจ็บก้น จึงซักถามจนเด็กเล่าให้ฟังว่า ถูกครูตี 18 ที เพื่อนบ้านจึงได้เปิดก้นดู พร้อมหายาทาให้และให้กินแก้ปวดบวม แก้อักเสบ

ซึ่งจากการสอบถาม ทราบว่า เด็กหญิงรายดังกล่าว พักอาศัยอยู่กับ นางต้อย (สงวนนามสกุล) ด้านหลังโรงเรียนใน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว กระทั่ง มีการนำภาพเผยแพร่ออกมา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกรณีนี้ ทราบว่า เด็กหญิงที่ถูกครูตีรายนี้ เป็นหลานของ นางต้อย (นามสมมุติ) เป็นยายของเด็ก ส่วนแม่กับพ่อได้แยกทางกัน โดยให้เด็กอาศัยอยู่กับตาและยาย กล่าวว่า ไม่เคยตีหลานเลย มีแต่บ่นอย่างเดียว สำหรับครูก็ไม่เคยเห็นถูกตี แต่ครั้งนี้มาเปิดดูเสียใจมาก ตกใจ สาเหตุที่ครูตีตนก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นเขาบอกว่าไม่ส่งงานครู ซึ่งหลานมาบอกว่า หนูโดนตี ครูคนแรก 6 ที ครูคนที่สอง ตี 12 ที วันนี้จึงไม่ให้เด็กไปโรงเรียน เด็กก็รู้สึกกลัวครูเหมือนกัน เพราะโดนตีขนาดนั้น โดนตีเมื่อวานวันที่ 13 พ.ย.ตอนประมาณเที่ยง ๆ อยากให้ ผอ.โรงเรียนดำเนินการแล้วแต่เห็นสมควร

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปขอพบผอ.โรงเรียน เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว ซึ่งครูในโรงเรียน บอกว่า ผอ.ไปส่งครูที่ย้ายไปโรงเรียนอื่นและจะเข้ามาในช่วงบ่าย โดยได้แจ้งว่า ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ครูฝ่ายปกครอง และครูประจำชั้น ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้เดินทางเข้าไปพูดคุยกับตาและยายของเด็กที่บ้าน แต่ครูที่ตีเด็กทั้ง 2 คน รวม 18 ที ไม่ได้เดินทางไปดูอาการเด็ก และได้รับแจ้งว่า ช่วงบ่ายครูทั้งสองคนจะมาพบกับตาและยาย

เพื่อพูดคุยกันอีกครั้ง กระทั่งเวลา 15.00 น. ผอ.โรงเรียน ได้เดินทางกลับมาที่โรงเรียนและได้พบกับผู้ปกครองเด็กที่ถูกครูตีอีกครั้ง พร้อมกับเชิญสื่อมวลชนและผู้ปกครองเด็กนักเรียนไปพูดคุยกันที่โรงเรียน และได้เรียกครูที่ตีเด็กทั้ง 2 คน ซึ่งได้นำไม่เรียวยาวประมาณ 1 เมตร ที่ใช้หวดตีก้นเด็กนักเรียนที่ไม่ส่งการบ้านมาหลายราย มาด้วย พร้อมกับมาพูดคุยและขอโทษผู้ปกครองเด็ก

โดยผอ.โรงเรียน รับปากว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก และได้กำชับให้ครูเลิกใช้ระบบไม้เรียวได้แล้ว เพราะมันผิดกฎของกระทรวงศึกษาธิการ ในโรงเรียนต้องหักไม้เรียวทิ้งแล้ว พร้อมทั้งมอบกระเช้าเครื่องดื่มชูกำลังให้กับคุณตาของเด็ก ต่อหน้าสื่อมวลชน

โดยมี ผอ.โรงเรียน และรอง ผอ.เป็นพยาน โดยรับปากว่า จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก นายสนั่น กล่าวว่า จะได้ทำเป็นหนังสือว่ากล่าวตักเตือนครูทั้ง 2 ราย ตามระเบียบของสถานศึกษา อีกทั้งเนื่องจาก ผู้ปกครองไม่ติดใจเอาเรื่อง และได้ว่ากล่าวตักเตือนครูทั้ง 2 ไปแล้วว่า ผู้ปกครองไม่ต้องการให้เกิดเหตุแบบนี้อีกกับนักเรียนคนอื่น ถ้าเขาเอาเรื่อง ก็ต้องสอบทางวินัย อาจจะเข้าข่ายถึงกับพักใบอนุญาตใบประกอบวิชาชีพครูเลยทีเดียว ซึ่งจากการดูรอยการลงโทษของครู ในฐานะที่ตนเองก็เป็นผู้ปกครอง ก็รู้สึกตำหนิครูเหมือนกันว่า ทำไมถึงทำกันขนาดนี้

"แต่เราค่อนข้างโชคดีที่เราไปเจอผู้ปกครองที่ค่อนข้างเข้าใจ และให้โอกาสคุณครู แต่ว่าก็ขออย่างเดียว ลูกเค้าจะต้องอยู่ในโรงเรียนอย่างมีความสุข แล้วเหตุการณ์แบบนี้อย่าให้เกิดขึ้นอีก อย่างไปตีคนอื่น ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ปกครอง 2 พันคน ว่าไม่อยากจะให้ครูโรงเรียนนี้ทำวีรกรรมแบบนี้กับเด็กคนอื่น ซึ่งเข้าใจว่า เรามีความตั้งใจ มีความหวังดีสูงว่า สิ่งที่เราต้องการให้เด็กได้ เมื่อเด็กมันไม่ได้ เด็กมันไม่ทำ สมัยก่อนไม้เรียวสามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ในเมื่อสังคมมันเปลี่ยนไป" นายสนั่น กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังครูผู้หญิงทั้ง 2 คน ที่ตีเด็ก รวม 18 ที ออกมายอมรับและขอโทษญาติของเด็ก พร้อมรับปากจะไม่ตีเด็กอีก โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนและ รองผู้อำนวยการฯ เป็นสักขีพยาน ซึ่งรับปากว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ทางผู้ปกครองจึงไม่เอาเรื่อง หลังได้พูดคุยกับ ผอ.และครูได้ขอโทษผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กได้เรียนต่อไปแบบไม่ต้องหวาดกลัวพร้อมขอโทษผู้ปกครองหลาย