หญิงถูกเครื่องบินบังคับชนนิ้วหัก คู่กรณีอ้างลูกเขยเป็นตำรวจ จะไม่ยอมจ่ายเงินสักบาท อยากได้ให้ไปฟ้องเอาเอง

จากกรณีเพจ Social Hunter Reborn V3 โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หญิงสาวรายหนึ่งถูกเครื่องบินบังคับไร้สายพุ่งชนนิ้ว 2 ข้างจนหัก แต่คู่กรณีไม่รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล โดยอ้างว่ามีญาติเป็นตำรวจ และบอกกับผู้เสียหายว่า ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอาเอง เหตุเกิดวันที่ 12 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 18.00 น. แจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณถนน 2 เลน ซึ่งเป็นลานกว้าง ใกล้เคียงโรงเรียนบางบัวทอง ซ.สวนผัก ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบ น.ส.ภรภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เล่าเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุวันที่ 12 ก.ค.66 เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเลิกงานและแวะมานั่งเล่นก่อนกลับบ้าน สถานที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มคนมาเล่นเครื่องบินบังคับเป็นประจำ ตนมานั่งเล่นตรงนี้เป็นครั้งที่ 3 ส่วนใหญ่จะมานั่งเล่นเกม

วันเกิดเหตุมีคนอยู่ประมาณ 5-6 คน ตนโดนเครื่องบินบังคับของคู่กรณีบินมาชนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปลายนิ้วก้อยหัก และเนื้อแหว่งหายไป ส่วนนิ้วนางข้างซ้ายมีบาดแผลฉีกขาด ไม่รู้ว่าต้องรักษาตัวอีกนานแค่ไหน หากแผลหายแล้วกลับมานิ้วก็ไม่เหมือนเดิม หมอนิติเวชตรวจแล้วลงความเห็นให้ตนรักษาตัว 30 วัน ตนรู้สึกเจ็บแผลมาก ใช้นิ้วทำงานไม่ได้ ปกติทำงานจะใช้ระบบสัมผัส พอนิ้วเป็นแผลทำให้ตนทำงานลำบาก ต้องใช้มือข้างขวาข้างเดียว ต้องคอยยกนิ้วไว้ตลอดเพราะทิ้งลงแล้วปวด ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งไม่สามารถขับรถมือเดียวได้เพราะกลัวเป็นอันตราย

หลังเกิดเหตุพี่กอล์ฟ 1 ในกลุ่มคนที่เล่นเครื่องบินบังคับเป็นคนพาตนไปส่งโรงพยาบาล และมีคนช่วยเจรจาให้คู่กรณีตามมารับผิดชอบตนที่โรงพยาบาล โดยคู่กรณีได้ชำระค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 17,179 บาท เท่านั้น ทุกวันนี้เดินทางโดยรถตู้ แท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ มีค่าใช้จ่ายในการทำแผลทุกวัน และตนต้องทำงานหากหยุดบ่อยจะโดนหักเงิน

น.ส.ภรภัทร กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ที่ตนมาร้องขอความเป็นธรรมกับ ส.ส.โป้ง เพราะตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม ตนเห็นบาดแผลตัวเองแล้วรับไม่ได้ นิ้วตนไม่เหมือนเดิมน่าจะต้องทำศัลยกรรมตกแต่ง เจ็บทั้งกายและใจ ปกติวันหยุดตนจะอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน แม่ลื่นล้มตนช่วยเหลือไม่ได้ ตนเสียใจมาก เพราะตนเจ็บแผลจึงต้องไปเรียกข้างบ้านมาช่วย

หลังเกิดเหตุตนเจอคู่กรณีที่ สภ.บางบัวทอง ตำรวจได้เรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย เขาต่อว่าตน บอกกับตนว่าตรงนั้นมันไม่ใช่ที่นั่งเล่น ทำไมตนไม่ไปใช้สิทธิประกันสังคม จะได้ไม่ต้องเสียเงิน ตนรอไม่ไหวเพราะเจ็บแผลมาก และวันเกิดเหตุตนยืนยันว่าไม่ได้ไปนั่งขวางเครื่องบินของเขา เพียงแค่นั่งเล่นเกมอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ

ฝั่งคู่กรณีบอกว่าพ่อเขาเป็นคนพาตนไปส่งโรงพยาบาล แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ตนมีพยานยืนยันในวันเกิดเหตุด้วย คู่กรณีบอกว่าจะไม่ยอมจ่ายเงินสักบาท ช่วยได้แค่ค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา ตนให้แฟนโทรไปเจรจาให้ คู่กรณีแจ้งว่าลูกเขยเป็นตำรวจ แต่ตนไม่ได้สนใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ถ้าคู่กรณีทำให้บาดเจ็บต้องรับผิดชอบ ตนเดินทางไปโรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุยกับคู่กรณีจึงรู้ว่าลูกเขยไม่ได้เป็นตำรวจ แต่เป็นประธาน กต.ตร. สภ.บางบัวทอง วันที่พูดคุยกันที่โรงพักคู่กรณีเสียงดัง พูดจาไม่เกรงใจว่าตรงนั้นคือสถานที่ราชการ ตนอยากให้ส.ส.โป้ง ช่วยให้ตนได้รับความเป็นธรรม จ่ายค่าเสียหายตนมาบ้าง เพราะหลังจากหายแล้วตนอาจจะต้องไปศัลยกรรมนิ้วใหม่ เพราะเนื้อแหว่งหายไปตามภาพ ซึ่งตนเสียใจและรับไม่ได้ทั้งคำพูดของคู่กรณีด้วย ทำให้ตัดสินใจว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งหมด

นายกอล์ฟ อายุ 54 ปี คนขับเครื่องบินบังคับ (พลเมืองดีที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาล) กล่าวว่า วันเกิดเหตุผู้เสียหายนั่งอยู่ท้ายรถกระบะ รถจอดอยู่ด้านในเวิ้งหญ้า คู่กรณีบังคับเครื่องบินลงจอดบนพื้นถนนแต่กดเร่งเครื่องบินขึ้นไปอีกครั้ง ทำให้เฉียงไปทางผู้เสียหาย ผู้เสียหายใช้มือปัดทำให้เครื่องบินโดนนิ้ว หากไม่ใช้มืออาจจะโดนใบหน้าแทน ตนเป็นคนพาผู้เสียหายไปส่งโรงพยาบาล

ขนาดเครื่องบินบังคับของคู่กรณี ความกว้างประมาณ 80 ซม. เครื่องบินชนิดนี้เรียกว่าเครื่องบินโฟม ใช้มอเตอร์บังคับ สถานที่ตรงนี้จะมีกลุ่มเล็กๆของพวกตนมาเล่นเครื่องบิน เล่นกันมา 3-4 ปีแล้ว คู่กรณีมาเล่นตรงนี้เป็นครั้งแรก คาดว่าเป็นกลุ่มเล่นเครื่องบินมาจากฝั่งไทรน้อย ตนไม่เคยเห็นมาก่อน แต่หลังจากเกิดเหตุคู่กรณีได้ขับรถตามตนและผู้เสียหายไปที่โรงพยาบาล

ด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ส.ส.โป้ง เขต 7 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีที่ผู้เสียหายได้รับบาดแผลจากคู่กรณี ดูจากผลการรักษาจากนิติเวชต้องรักษาตัวถึง 30 วัน เคสนี้ถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีโทษทางอาญา ส่วนทางแพ่งสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ประเด็นที่มาวันนี้ไม่ใช่แค่ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ แต่มีเรื่องของที่คู่กรณีได้อ้างว่ามีคนรู้จักเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอถามไปมาได้ตำตอบว่าเป็นประธาน กต.ตร. ของ สภ.บางบัวทอง กรณีนี้ไม่ควรมาเอ่ยอ้าง จะจริงไม่จริงอย่างไรไม่ควรนำตำแหน่งมาแอบอ้างกัน หากเป็นความจริงถือว่าเสียหาย ท่านประธาน กต.ตร.ของสภ.บางบัวทอง ต้องออกมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ความสัมพันธ์ของคู่กรณีที่ตกเป็นผู้ต้องหากับบุคคลที่ถูกแอบอ้างเป็นประธานกต.ตร.สภ.บางบัวทอง ว่าใช่หรือไม่ ที่จริง ส.ส.โป้ง เองรู้จัก เป็นรองนายกอบต.ตำบลบางบัวทอง ตำบลหนึ่ง เดี๋ยวจะทำการประสานให้ว่าถูกแอบอ้างจริงหรือไม่

หากเสียหายก็ต้องให้ประธาน กต.ตร. ออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเอง ฝากไว้ว่าไม่ว่าจะทำงานตำแหน่งอะไรก็ตาม จะเป็นคู่กรณีเองหรือญาติของคู่กรณี ก็ไม่ควรนำหน้าที่การงานมาข่มเหงประชาชน มาทำให้ได้รับความเดือดร้อนหรือสูญเสียสิทธิ์ตามกฎหมาย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ทุกคนเสมอภาคเท่าเทียมกัน อยากจะเรียกร้องว่าเรามีตำแหน่งหน้าที่การงานอะไร ก็ควรจะดูแลทั้งตัวเองและคนรอบข้าง หากนำไปแอบอ้างให้เกิดความเสียหายก็ควรจะออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง