สังคม

'แอนนา' รับทราบข้อกล่าวหาปมกล่องสุ่มทิพย์ เผยทองหาย 4 ล้าน เพราะแมสเซนเจอร์รถล้ม

โดย panisa_p

16 มิ.ย. 2566

100 views

วันที่ 16 มิ.ย. 66 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ แอนนา วรินทร วัตรสังข์ หรือ แอนนา ทีวีพูล อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง พร้อมด้วย พุดเดิ้ล ยุพดี เพื่อนสนิทดาราสาวผู้ล่วงลับ แตงโม ภัทรธิดา เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีจากการทำธุรกิจ    


ภายหลังสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง แอนนา ทีวีพูล พร้อมพุดเดิ้ล ยุพดี และนายสุธี วิเชียรวัฒนชัย ทนายความ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า วันนี้เป็นการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และนำพยานหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับการขออนุญาตการทำกิจกรรมกล่องสุ่มรวมถึงหลักฐานการซื้อขายทอง มามอบให้กับพนักงานสอบสวน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกงประชาชนแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงการทำธุรกิจที่ผิดพลาด


ยอมรับขายกล่องสุ่มจริง ในราคาตั้งแต่ 300-2,000 บาท ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นจำพวกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และไม่มีผู้เสียหายในกลุ่มนี้ แต่มีปัญหาในกลุ่มลูกค้าที่แลกซื้อทองคำ ซึ่งเป็นโปรโมชันให้กับลูกค้าประจำ ที่สามารถแลกซื้อทองในราคาพิเศษได้ หากซื้อกล่องสุ่มตั้งแต่ 200 กล่องขึ้นไป ก็สามารถซื้อทองในราคาพิเศษได้ แต่เกิดปัญหาในการบริหารจัดการ ทำให้เกิดปัญหาลูกค้าที่แลกซื้อทองไม่ได้ทองจริง เป็นผลมาจากราคาทองขึ้นสูงและเกิดปัญหาทองคำมูลค่า 4 ล้านบาทสูญหายระหว่างขนส่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา


สื่อมวลชนพยายามซักถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทองคำสูญหาย แอนนาระบุว่า จุดเริ่มต้นมาจากคืนนั้นหลังจากตนไลฟ์ขายของเสร็จ ก็ได้ว่าจ้างให้แมสเซนเจอร์เดินทางมารับทองคำมูลค่า 4 ล้านบาท ที่ดำเนินการแพ็กส่งให้ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย ที่บ้านของตนเองในเวลาประมาณตีสอง จากนั้นช่วงประมาณตี 4 กว่า แมสเซนเจอร์คนดังกล่าวประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซต์พลิกคว่ำ ไม่สามารถนำทองไปส่งได้และทองก็เกิดสูญหายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น


อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความกับตำรวจ สน.คันนายาว เพื่อให้ช่วยตามหาทองดังกล่าวและนำตัว แมสเซนเจอร์คนนี้ไปสอบปากคำ แต่ไม่มีความคืบหน้าของคดี เนื่องจากแมสเซนเจอร์คนดังกล่าว ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่รู้เห็นว่าทองคำหายไปได้อย่างไร ส่วนตนเองก็ไม่ได้ติดใจที่จะดำเนินคดีเอาผิดกับแมสเซนเจอร์คนนี้ มุ่งหวังเพียงแค่จะได้ทองกลับคืนมา ยอมรับว่าตอนนี้ตนไม่ได้ติดต่อกับแมสเซนเจอร์คนดังกล่าวแล้ว เพราะเสียความรู้สึก


อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนได้พยายามซักถามข้อเท็จจริงในเรื่องของทางคดี เช่น ทำไมถึงไม่แจ้งความดำเนินคดีกับแมสเซนเจอร์คนดังกล่าวในข้อหายักยอกทรัพย์ และประเด็นที่ว่าทำไมไม่รอให้เป็นเวลาช่วงกลางวันถึงนำทองคำไปส่งให้ลูกค้า ซึ่งจะเป็นเวลาที่ปลอดภัยกว่า อีกทั้งทำไมถึงเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ในการขนส่งทองคำที่มีมูลค่าสูง ทางแอนนาตอบคำถามไม่ชัดเจนในประเด็นเหล่านี้ อ้างเพียงว่า อาจจะเป็นเพราะเวรกรรมเลยทำให้ตนต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ และส่งผลมาถึงการดำเนินคดีที่ถูกออกหมายเรียกในวันนี้ และ เปลี่ยนจากการติดตามดำเนินคดี เป็นการกราบขอร้องไปยังแมสเซนเจอร์หรือประชาชนในพื้นที่ที่พบเห็นทองมูลค่า 4 ล้านบาทให้นำมาคืนตน


แอนนายอมรับว่า ตอนนี้ตนต้องพยายามหาทุกบาททุกสตางค์มาชดใช้คืนแก่ผู้เสียหายที่แลกซื้อทองคำ ซึ่งตนยอมรับตามตรงว่า ไม่รู้ว่ามีผู้เสียหายจำนวนเท่าไหร่ และยอดความเสียหายจำนวนเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้รวบรวม และตรวจสอบไม่ได้เนื่องจากไม่ได้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย อีกทั้งยอมรับว่าที่ผ่านมาตนเครียดมาก จนถึงขนาดเกือบฆ่าตัวตายหลายครั้ง ตัดพ้อว่าตอนนี้ต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อใช้หนี้ ซึ่งภายหลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้นปรากฏว่าแอนนา เกิดอาการกึ่งเป็นลมลงไปนั่งกับพื้น ต้องนำยาดมมาปฐมพยาบาลก่อนจะเดินทางกลับออกไป


ด้านทนายความระบุว่า หลังจากนี้ทางตำรวจจะให้ทางแอนนาไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม อีกทั้งรอความชัดเจนจากทางตำรวจว่า จะรวบรวมทุกคดีความที่มีการแจ้งความแอนนาจากสถานีตำรวจทั่วประเทศมารวมไว้ที่ สอท.1 หรือไม่ แล้วจะนำมาสอบปากคำใหม่อีกครั้ง พร้อมระบุว่า ที่แอนนาถูกดำเนินคดี อันเนื่องมาจากความเข้าใจผิดเรื่องการสั่งซื้อทองที่เป็นโปรโมชั่นพิเศษ


แต่ยืนยันว่าแอนนาไม่ได้ทำกล่องสุ่มทอง แอนนาทำกล่องสุ่มสินค้าเสริมความงามตามปกติและมีการขอใบอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยโดยชอบแล้ว ส่วนทองคำที่มีปัญหานั้น เป็นเพียงโปรโมชั่นที่ให้สำหรับลูกค้าประจำแลกซื้อเมื่อซื้อกล่องสุ่มในจำนวนที่กำหนดไว้เท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News