หญิงพิการร้องสื่อ ผวาถูกพี่สาวใช้ไม้ตีหัวแตก ปมไม่พอใจที่ไม่ดูแลแม่ติดเตียง แจ้งความแต่ไม่คืบ

สาวพิการร้องถูกพี่สาวบุกใช้ไม้ตีหัวจนแตก ต้องนอนโรงพยาบาลถึงวันห้าวัน แจ้งความกับตำรวจผ่านมานานสองเดือน คดีไม่มีความคืบหน้า 

วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอรอุมา อายุ 48 ปี ได้ร้องขอความเป็นธรรมจากผู้สื่อข่าว หลังถูกนางนฤมล อายุ 60 ปี พี่สาวแท้ๆบุกใช้ไม้ตีศรีษะและตามร่างกายหลายแห่งจนศรีษะแตก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 5 วัน แม้จะแจ้งตำรวจแล้ว แต่ผ่านมานานกว่าสองเดือน คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ คู่กรณียังคงใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา คู่กรณียังถือไม้ท่อนใหญ่บุกมาถึงหน้าบ้านพร้อมตะโกนด่าทอและใช้ไม้ที่ถือมาตีสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้ และใช้ก้อนหินขว้างใส่ประตูบ้าน ทำให้ตนเองที่เป็นผู้พิการและลูกอีกสองคนต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดผวา โดยนางอรอุมา ได้เปิดคลิปวิดีโอที่ลูกชายถ่ายบันทึกเหตุการณ์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 11 มิถุนายน ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเล่าข้อมูลให้ฟังว่า ในวันดังกล่าว ตนเองเดินลงมาจากบ้านประมาณช่วงตีห้า เพื่อจะไปหุงข้าวและเตรียมอาหาร ได้หันไปเห็นนางนฤมล ซึ่งเป็นพี่สาวเดินข้ามมาจากบ้านฝั่งตรงข้าม พร้อมถือไม้ท่อนใหญ่มาในมือ เดินตรงเข้ามาหาตน ด้วยความตกใจกลัวจะถูกทำร้าย ตนจึงรีบเดินขึ้นไปบนบ้านและล็อกประตู

จากนั้นพี่สาวได้ตะโกนด่าและใช้ก้อนหินขว้างใส่ประตูบ้านของตน ทำให้ลูกคนเล็กของตนตื่นขึ้นมาแล้วใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเหตุการณ์เอาไว้เป็นหลักฐาน และส่งเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังผู้สื่อข่าว โดยนางอรอุมา เล่าว่า นอกจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้ว เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา นางนฤมล ยังเคยบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายตนถึงในบ้าน เนื่องจากไม่พอใจที่ตนไม่ได้ไปดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง แม้ตนพยายามจะอธิบายว่า ตนไปไม่ไหวเพราะเกิดเป็นลมนอนหมดสติอยู่ภายในบ้าน แต่นางนฤมลก็ไม่ฟัง แถมยังทำร้ายร่างกายตนโดยการจับหัวตน กดกับพื้น ใช้ไม้ตีเข้าที่ศรีษะ ใบหน้าและตามแขนหลายครั้ง จนตนศรีษะแตก คิ้วแตกและฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง มีอาการมึนงงตลอดเวลาต้องใช้เวลานอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน 5 วัน หลังออกจากโรงพยาบาลก็ได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี แต่ปรากฏว่า ผ่านมานานกว่าสองเดือนแล้ว คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทำให้พี่สาวของตนที่เป็นผู้ก่อเหตุมีความย่ามใจ และเข้ามาข่มขู่ทำลายทรัพย์สินที่บ้านของตน ทำให้ตนซึ่งเป็นผู้พิการและลูกอีกสองคนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวา เพราะกลัวที่จะถูกทำร้ายอีก

นางอรอุมา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมา ลูกพยายามขอร้องให้ตนย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่ตนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะมีฐานะยากจน ไม่มีเงินไปเช่าบ้านอยู่ที่อื่น ทุกวันนี้ก็ได้อาศัยบ้านที่ทางกองทัพบกมาสร้างให้ใช้พักอาศัย แต่ก็มาถูกพี่สาวแท้ๆทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง แจ้งความไป คดีก็ไม่คืบ แถมพี่สาวหลังก่อเหตุก็ไม่เคยมาคุยหรือมาขอโทษ แถมยังมาก่อเหตุซ้ำเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมายอีก ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องมาขอความเป็นธรรมให้สื่อมวลชนช่วยเหลือในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนางนฤมล ผู้ก่อเหตุ ซึ่งนางนฤมล ยอมรับว่า ได้ก่อเหตุใช้ไม้ตีนางอรอุมา จนได้รับบาดเจ็บจริง โดยอ้างว่าที่ทำไป เพราะโมโหที่นางนางอรอุมา ไม่ยอมไปดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงอยู่ภายในบ้าน ปล่อยให้แม่นอนอดข้าวอยู่ตามลำพัง ส่วนเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งลูกชายของนางอรอุมาถ่ายคลิปเอาไว้นั้น นางนฤมล ยืนยันว่า ที่ตนถือไม้ไปที่บ้านของนางอรอุมา ก็เพื่อจะไปตามหาสุนัขของนางอรอุมา ที่มาคาบรองเท้าจากหน้าบ้านของตนไป ไม่ได้คิดจะไปข่มขู่หรือทำร้ายนางอรอุมาแต่อย่างใด ส่วนก้อนหินที่เขวี้ยงขึ้นไปบนบ้านก็เพื่อต้องการจะไล่สุนัขที่นอนแอบอยู่ใต้ถุนบ้านเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำลายบ้านของนางอรอุมาแต่อย่างใด

ในส่วนของคดีความ ที่นางอรอุมา ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ซึ่งผ่านมานานกว่าสองเดือนแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้านั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังร้อยตำรวจเอกชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ทำให้ทราบว่า ขณะนี้ ได้สอบปากคำผู้เสียหายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำหรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เพราะยังต้องรอผลการตรวจบาดแผลของทางโรงพยาบาลก่อน จึงยังไม่สามารถทำอะไรได้ แม้เวลาจะผ่านมานานถึงสองเดือนแล้วก็ตาม