สหกรณ์ครูปัดข่าวลือ ฟ้องล้มละลาย 2,300 ราย ทำคนแห่ถอนเงินวันเดียว 100 ล้าน เผยฟ้อง 2 รายเท่านั้น

คนแห่ถอนเงินสหกรณ์ครูวันเดียวกว่า 100 ล้านบาท หลังมีข่าวจะฟ้องล้มละลายครูกว่า 2,300 ราย ผู้บริหารสหกรณ์ครูแถลงสถานะทางการเงินยังเข้มแข็ง และปีนี้เพิ่งฟ้องล้มละลายครูไปแค่เพียง 2 ราย



จากกรณีเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา มีครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสถานศึกษาในพื้นที่ 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา จำนวน 210 คน ประชุมกับเครือข่ายประชาชนแก้หนี้สินแห่งประเทศไทย ที่หอประชุมพระบรมราชสมภพ 200 ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา และมีข้าราชการครูบำนาญรายหนึ่งให้ข่าวว่า ขณะนี้มีเพื่อนครูในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ประมาณ 2,300 คน อยู่ระหว่างสถาบันการเงินยื่นฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย และอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันต้องชดใช้หนี้สินแทนนั้น



วันนี้ (8 มิถุนายน 2566) ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด นายบุญธรรม เดชบุญ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารสหกรณ์ฯได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงถึงกรณีนี้ ภายหลังจากที่มีข่าวดังกล่าวออกไปสู่สาธารณะ ส่งผลทำให้มีสมาชิกของสหกรณ์ฯ แห่มาถอนเงินออกไปเป็นจำนวนมาก



นายบุญธรรม เดชบุญ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวที่ออกไปมีความคลาดเคลื่อนในข้อมูล โดยขอชี้แจงว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลานาน 66 ปี ถือว่าเป็นสถาบันการเงินที่เป็นที่พึ่งให้กับครู และบุคลากรทางการศึกษามาโดยตลอด และไม่เคยคิดที่จะไปฟ้องร้องครูให้ล้มละลายเลยตลอดระยะเวลา 66 ปี



โดยในปี 2566 นี้สหกรณ์ฯ เพิ่งฟ้องล้มละลายไปเพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 28,000 ราย โดยเหตุที่ฟ้องล้มละลาย 2 รายดังกล่าว ก็เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยรายแรกเป็นข้าราชการครูที่ถูกไล่ออก แล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงมีการฟ้องกันมานานครบ 10 ปีแล้วยังมีหนี้เกิน 1 ล้านบาท จึงได้ดำเนินการฟ้องล้มละลาย ส่วนอีกรายหนึ่งเป็นครูที่ไปค้ำประกันให้กับคนอื่นที่ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องล้มละลายมา ซึ่งหลังจากที่ทางสหกรณ์ฯ ฟ้องล้มละลายไปแล้ว ทางสหกรณ์ฯ ก็ยังติดตามไปดูแลตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาชีวิตกับผู้ที่ถูกฟ้องล้มละลายตามมาในภายหลัง



ซึ่งข้อมูลข่าวที่ออกไป ทำให้เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ เกิดความวิตก และพากันแห่มาถอนเงินจากสหกรณ์ฯ ในวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขอชี้แจงว่า ปัจจุบันนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด มีสมาชิกอยู่กว่า 28,000 คน มีทุนอยู่กว่า 21,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นทุนเรือนหุ้นกว่า 18,420 ล้านบาท ทุนสำรองกว่า 2,157 ล้านบาท ทุนสะสมตามข้อบังคับกว่า 190 ล้านบาท และมีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่นประมาณ 6,880 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทุนของสหกรณ์ฯ จะเห็นว่ามีความเข้มแข็งมากในระบบการเงิน



ทั้งนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกได้จำนวน 364 ราย สหกรณ์ฯ ใช้เงินในการแก้ไขปัญหาไปจำนวน 509 ล้านบาท ทำให้สมาชิกได้ประโยชน์ไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี ไม่ถูกอายัดคดี สมาชิกมีเงินได้รายเดือนเหลือเพิ่มขึ้น



นายบุญธรรม กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ข้าราชการครูต้องใช้หนี้จากสถาบันการเงินต่างๆ 70% และเหลืออีก 30% เป็นค่าครองชีพนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับครูที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เมื่อเกษียณราชการแล้วเงินเดือนก็ลดลง แต่เพดานการชำระหนี้ยังอยู่ตามฐานเงินเดือนเดิมอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ทางสหกรณ์ฯ มีระเบียบปรับโครงสร้างหนี้อยู่แล้ว ซึ่งหากสมาชิกมีปัญหาด้านการเงินจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็ขอให้มาพูดคุยเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ทางสหกรณ์ฯ พร้อมช่วยเหลือสมาชิกทุกคนเต็มที่



นายชำนาญ กุลงูเหลือม อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ปัญหาหนี้สินข้าราชการครู ไม่ใช่ปัญหาอยู่ที่ตัวครูอย่างเดียว แต่เกิดจากการไปค้ำประกันให้กับบุคคลอื่นๆ ที่เป็นญาติ พี่ น้อง หรือคนที่รู้จัก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเป็นหนี้สินแล้วก็ต้องพยายามชำระหนี้ให้ได้ และต้องมาหาทางแก้ไข เพราะถ้าปล่อยให้ครูเป็นหนี้อยู่เช่นนี้ต่อไป ก็จะทำให้ครูไม่มีสมาธิในการสอนนักเรียน ทำให้คุณภาพการเรียนการสอนลดลง เป็นปัญหาระดับชาติ จึงต้องขอฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างจริงจัง