สังคม

ศาลสั่งจำคุก '3 นายก อบต.' และพวก หลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้าง

โดย chiwatthanai_t

31 พ.ค. 2566

3.6K views

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาจำคุก 3 นายก อบต. และอีก 1 รองปลัด อบต. กรณีมีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการจัดงานและจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ


เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมโรงแรมอีโค่อินท์ นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้แถลงข่าวผลการชี้มูลความผิดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบผู้นำชุมชน 3 คดี

คดีที่ 1 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล นายวีระชัย รุณแสง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กรณีจัดจ้างโครงการขุดลอกคลองส่งน้ำ จำนวน 3 โครงการ ว่า การกระทำของ นายวีระชัย รุณแสง มีมูลความผิดทางอาญา ในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหาย แก่รัฐ หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยและสวัสดิการของประชาชนนั้น

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพหลังจากสืบพยานไปบ้างแล้วเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา

คดีที่ 2 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล นายธวัช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก องค์การบริหารส่วนตำบลนาเกลือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กับนางศศิธร แสงรัตน์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกลือ กรณีจัดงานโครงการแข่งขันมหกรรมกีฬาท้องถิ่น “พระยารัษฎาเกมส์” ครั้งที่ 11 วงเงิน 1,800,00 บาท โดยอนุมัติสั่งจ่ายเช็คไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 นั้น

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 คนละ 15 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 133,333.34 บาท แต่เนื่องจากไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน อีกทั้งเมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์และสภาพความผิดกับความเดือดร้อนที่จำเลยทั้งสองได้รับจากการถูกลงโทษทางวินัยแล้ว โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับ ให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30

คดีที่ 3 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายอุทัย โชติช่วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กรณีจัดทำโครงการปรับปรุงคูระบายน้ำ และผิวทางชำรุด โดยอ้างประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินที่เกิดจากอุทกภัย โดยไม่ได้ขออนุมัติจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลปากคม และได้อนุมัติให้ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และ นายอุทัย โชติช่วง ได้คัดเลือกผู้รับจ้างให้มาเสนอราคาด้วยตนเอง โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายนั้น

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 ปี 12 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่เนื่องจากยังไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษมาก่อน และปัจจุบันป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ และได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ อบต. เป็นเงิน 50,000 บาทแล้ว โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

คุณอาจสนใจ

Related News