สังคม

จับแล้ว! หลานฆ่าปาดคอน้าสาว ปมจับได้เข้าขโมยของร้านซื้อของเก่า

โดย chiwatthanai_t

10 พ.ค. 2566

107 views

ตำรวจสืบสวนภาค1 สืบจังหวัดนนทบุรี และสืบสภ.บางบัวทอง นำกำลังเข้าจับตัวนายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค ได้ใน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ สีแดง-ดำ สร้อยข้อมือทองคำนำหนัก 1 บาท ก่อนนำตัวมาสอบสวนสภ.บางบัวทอง


กรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 09.10 น. ศูนย์วิทยุสภ.บางบัวทอง รับแจ้งหญิงเสียชีวิต ที่ร้านรับซื้อของเก่า ในพื้นที่ อ.บางบัวทองจ.นนทบุรี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วรรณา อายุ 52 ปี สภาพศพมีบาดแผลไฟไหม้​บริเวณใบหน้ากับลำตัว ขณะที่ข้อมือและข้อเท้าถูกมัดด้วยสายไฟเสียชีวิตอยู่บริเวณภายในห้อง หลังนำศพส่งรพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิตชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตก่อนจะถูกเผาอำพราง


ตำรวจสภ.บางบัวทอง ได้นำตัว นายสุทโธ สามีผู้ตาย นางบุญล้อม พี่สาวนายสุทโธ น.ส.นิตยา รินเพ็ง นายทวีศักดิ์ รินเพ็งและนายวิพัฒน์ ไชยมาสุข หลานนายสุทโธ มาสอบปากคำ ทั้งหมดให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตของน.ส.วรรณา


ต่อมาทางทีมชุดคลี่คลายคดี ได้ข้อมูลว่ามีหลานของนายสุทโธ คือนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค อายุ 35 ปี เคยเป็นคนงานทำงานที่ร้านนี้แล้วถูกไล่ออกเนื่องจากประพฤติตัวไม่ดี ประกอบกับข้อมูลหลักฐานที่ทางตำรวจได้มาจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ร้านรับซื้อของเก่าให้ข้อมูลว่าเห็นรถจักรยานยนต์สีแดงขับออกจากหน้าร้านในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ตำรวจจึงได้ไล่กล้องตรวจสอบเส้นทางพบว่ารถคันดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าเป็นคนของนายหนุ่ม(นามสมมุติ) ให้ข้อมูลว่านายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค ขอยืมไปใช้โดยไม่ทราบว่านายพงษ์ภัทร นำไปก่อเหตุ ตำรวจจึงรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบ ต่อมาตำรวจได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมตัวนายแจ๊ค 


จากการสอบสวนนายพงษ์ภัทร รับสารภาพว่า เป็นคนที่ลงมือฆ่า น.ส.วรรณา จริง โดยอ้างว่าวันที่เกิดเหตุนั้นตั้งใจที่จะไปขโมยของในร้านขายของเก่า แต่ผู้ตายตื่นมาเจอแล้วบอกว่าจะโทรศัพท์บอกนายสุทโธ ตนกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีจึงไปแย่งโทรศัพท์ ขณะที่ผู้ตายตะโกนร้องให้คนอื่นมาช่วยจึงใช้ผ้าอุดปากเพื่อไม่ให้ผู้ตายส่งเสียงร้องเรียกให้คนมาช่วย แล้วใช้สายไฟมัดมือและเท้าของผู้ตาย หลังจากนั้นจึงใช้มีดปาดที่ลำคอของผู้ตาย แล้วได้เอาสร้อยข้อมือทองคำของผู้ตายไปด้วย ก่อนที่จะจุดเทียน แล้วนำเศษกระดาษทำเป็นเชื้อเพลิง เพื่อที่จะให้เกิดเพลิงไหม้ในร้านขายของเก่าเพื่อที่จะอำพรางศพ หลังจากนั้นก็ขับรถหลบหนีแล้วนำทองไปขายที่ร้านทองแถวอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี


ต่อมา พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 เดินทางมาที่สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบปากคำนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค เพื่อถามสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนจะให้ทางพนักงานสอบสวนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ


ทีมข่าวได้พูดคุยกับสามีคนตาย ให้ข้อมูลทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าจะเป็นหลานที่ก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งที่ผู้ตายคอยดูแลเมตตาสงสารมาตลอด เมื่อก่อนเคยทำงานที่ร้านแต่พฤติกรรมไม่ดีตนจึงไล่ออกจากงาน ผู้ตายสงสารยังให้ไปพักอยู่ที่ห้องพักด้านนอก ไม่คิดว่าเขาจะเหี้ยมโหดแบบนี้ ตนอยากให้เขาได้รับกรรมตายตกตามไป

คุณอาจสนใจ