‘พระพยอม’ โอดค่าไฟวัดอ่วม พุ่ง 1.5 แสนบาท ขอรัฐบาลใหม่หนุน ‘โซลาร์เซลล์’ ในครัวเรือน

พระพยอมโอดค่าไฟวัดอ่วม พุ่ง 1.5 แสน จากเดิม 1 แสน ทั้งที่ใช้ไฟเท่าเดิม ไม่ฝากถึงรัฐบาลเก่า แต่ขอรัฐบาลใหม่หนุนโซลาร์เซลล์ในครัวเรือน

จากการที่ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงจนสร้างความเดือดร้อนไปทั่วประเทศนั้น แม้แต่วัดสวนแก้วเองก็ได้รับผลกระทบจากค่าไฟฟ้าที่มีราคาพุ่งสูงเช่นกัน

พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ทางวัดสวนแก้วก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน เป็นค่าไฟที่แพงสุดๆ ในรอบสิบปีร้อยปีก็ว่าได้ จากที่วัดเคยจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อเดือน ก็พุ่งไปเป็น 1.4-1.5 แสนบาท สูงเกือบครึ่งของครึ่ง ทั้งๆ ที่ทางวัดใช้ไฟเท่าเดิม แต่ก็อาจจะมีการใช้ไฟเพิ่มในช่วงที่อากาศร้อนจัดมาหลายวัน เพราะภายในวัดมีเด็กมีคนงานอยู่เกือบพันคน ก็อาจเปิดพัดลมระบายร้อนในช่วงกลางวันเพิ่ม แต่ภาระดังกล่าวก็ตกมาอยู่ที่วัดแทน เพราะวัดเป็นผู้รับภาระในส่วนนี้แทน อย่างบางห้องอาศัยอยู่กัน 2 คน ทางวัดก็เก็บค่าไฟเพียง 50 บาทต่อเดือน ที่นี้พอค่าไฟฟ้ามันเพิ่มขึ้นมาครึ่งของครึ่ง ทางวัดก็ไม่ได้ไปเรียกเก็บจากเด็กหรือคนงานเหล่านี้เพิ่มขึ้น ทำให้ทางวัดต้องแบกรับภาระในส่วนต่างที่ค่าไฟฟ้าขึ้นราคาแทน

พระพยอม กล่าวอีกว่า ไม่ขอฝากอะไรถึงรัฐบาลชุดเก่าแล้ว แต่ขอฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเลือกตั้งเข้ามาว่า ช่วยดูแลรักษาความเดือดร้อนทุกข์ยากให้กับชาวบ้านด้วย เข้ามาแล้วจะแก้ไขปัญหาอะไรก็รีบทำ เพราะตอนนี้ชาวบ้านเขารู้กันหมดแล้วว่าค่าไฟแพง แต่หน่วยงานที่ดูแลจัดการเกี่ยวกับพลังงานรวยอู้ฟู่ขึ้น แล้วทำไมภาครัฐถึงไม่สนับสนุนเรื่องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ตามบ้านเรือน เพราะในวัดสวนแก้วเองยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อนำพลังงานมาใช้ในการรดน้ำในพื้นที่สวน ซึ่งหากไม่ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้ คิดว่าค่าไฟฟ้างวดที่ผ่านมาทางวัดคงต้องจ่ายค่าไฟไม่น้อยกว่า 1.7-1.8 แสนบาทต่อเดือนแน่นอน อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ใส่ใจเรื่องนี้จริงจัง หันมาสนับสนุนให้ประชาชนมีทุนทรัพย์ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน อาตมาดูข่าวหนุ่มคนหนึ่งในยูทูบแล้ว ลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ด้วยตัวเอง จากค่าไฟเดือนละ 3,000 บาท ลดลงเหลือเพียง 70 บาทต่อเดือน เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรหันมามองและให้การสนับสนุน ไม่ใช่คิดแต่ว่าจะทำยังไงให้ได้คะแนนได้อยู่ต่อในอำนาจไปวันๆ แต่ไม่ได้คิดถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน จากผลกระทบค่าไฟที่แพงขึ้น ซึ่งควรจะแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าขอไปที