สังคม

แม่พาลูก 5 ขวบไปฝากเลี้ยง กลับบ้านมาเจอแผลเต็มตัว พี่เลี้ยงรับตีจริง โมโหเด็กร้องไม่หยุด

โดย panisa_p

5 เม.ย. 2566

61 views

วันที่ 5 เม.ย. 66 น.ส.พลอย อายุ 35 ปี พร้อมลูกชาย อายุ 5 ขวบ เดินทางมาพบ พ.ต.ต.นพดล ทวีชาติ สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อขอคำปรึกษาหลังจากนำลูกไปฝากเลี้ยง แล้วถูกตีจนเป็นรอยเขียวช้ำทั้งตัว ทางตำรวจจึงขอดูร่องรอย พบว่าเด็กถูกตีด้วยวัสดุบางอย่างจนเป็นรอยเขียวช้ำตามแขน ลำตัวและขา โดยเมื่อคืนนี้ น.ส.พลอยได้พาลูกชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 แล้ว ซึ่งค่ารักษาต่างๆ ทางน้าของคนที่ฝากเลี้ยงเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 8,000 บาท


น.ส.พลอยเล่าเหตุการณ์ว่า ตนได้นำลูกชายไปฝากไว้กับ น.ส.บัว อายุ 32 ปี ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  เพราะตนต้องทำงานโรงงานและไม่มีคนดูแลลูกชาย โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 เม.ย. 66 ทางพ่อเด็กก็ไปรับลูกชายตามปกติ โดย น.ส.บัวได้บอกว่า วันนี้ตีลูกเพราะ ร้องไห่ไม่หยุดและอาเจียน ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน จึงลงโทษโดยใช้ไม้แขวนเสื้อตี ทีแรกตนก็นึกว่าตีไม่กี่ครั้ งแต่พอถอดเสื้ออาบน้ำให้ลูกชายถึงกับตกใจว่าทำไมลูกถึงมีรอยเขียวช้ำไปทั้งตัว และทำไมต้องตีขนาดนี้ เพราะเขายังเด็ก


ซึ่งพอตนโพสต์เรื่องราวลงเฟชบุ๊ก น.ส.บัวก็โทรมาต่อว่า ทำไมต้องประจานกันด้วย ทำไมไม่มาคุยกันดีๆ สุดท้ายจึงนำลูกชายไปตรวจร่างกาย เบื้องต้นจะไปคุยเจรจาเรื่องค่าคำขวัญ ไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โต หลังจากนี้ก็จะพาไปฝากเลี้ยงที่อื่น


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่รับเลี้ยงเด็กตามคำบอกเล่าของ น.ส.พลอย พบกับ น.ส.บัว นั่งเลี้ยงเด็กอยู่ภายในบ้าน โดย น.ส.บัว เผยว่า เหตุที่ทำลงไป เพราะเด็กชายบีนั้นชอบร้องไห้ไม่หยุดและร้องเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนทำให้ข้างบ้านรำคาญและจะแจ้งตำรวจจับ ซึ่งตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก แล้วไม่ได้เลี้ยงไปพักหนึ่ง ต่อมาทางคุณแม่ก็กลับมาให้เลี้ยงอีก ซึ่งตนพยายามสังเกตพฤติกรรมของเด็กชายบีว่าทำไมถึงร้องไห้ทุกวันและร้องระยะยาวนาน จึงบอกคุณแม่ไปว่าน้องน่าจะผิดปกติอยากให้พาไปหาหมอ แต่ทางคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร


จนเมื่อวานนี้น้องร้องไห้หลายชั่วโมง จนตนโมโหและหมดความอดทน คว้าไม้แขวนเสื้อมาฟาดที่แขนและตัวไปหลายครั้ง แต่น้องก็ไม่หยุดร้อง พร้อมทั้งโทรบอกผู้ปกครองว่าให้มารับกลับบ้าน เพราะไม่ไหวแล้ว อีกทั้งหลังจากที่รับเด็กกลับไป ตนมาเห็นว่าคุณแม่ของน้องบีโพสต์ต่อว่า ทำให้โกธรมาก ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรับผิดทุกอย่าง เสียใจที่ทำลงไปแต่ก็รักเด็ก หลังจากนี้หากแม่น้องบีจะเจรจาเรื่องค่าทำขวัญก็พร้อมยินดีที่จะจ่าย เพราะตนเป็นคนกระทำให้เด็กต้องเจ็บตัว ซึ่งทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะเจรจาตกลงกัน จึงไม่อยากสืบสาวเอาเรื่องกันอีก

คุณอาจสนใจ

Related News