สังคม

ภัยใกล้ตัว! ‘ฮีทสโตรก’ ช่วงอากาศร้อน ความรุนแรง 4 ระดับ อันตรายถึงชีวิต

โดย JitrarutP

31 มี.ค. 2566

5.7K views

“ฮีทสโตรก” ภัยใกล้ตัว! โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน “หมอธีระวัฒน์” ชี้ มีความรุนแรงถึง 4 ระดับ อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต


วันนี้ (31 มี.ค. 66) ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับลมแดด ฮีทสโตรก ที่มากับอากาศร้อน โดยได้โพสต์ข้อความระบุว่า ลมแดด! ฮีทสโตรก มันมากับความร้อน ลักษณะอากาศ ช่วงนี้ประเทศไทยจะมีอากาศร้อนอบอ้าวเกือบทั่วไป จะสูงกว่าค่าปกติ และสูงกว่าปีที่ผ่านมา อากาศร้อน อุณหภูมิ อย่างนี้ ขนาดที่ว่าต้มไข่สุก ด้วยกลางแดดปรอทขึ้นไปถึง 42 องศา อุณหภูมิขนาดนี้



ร่างกายจะมีการสูญเสียเหงื่อ น้ำ เกลือแร่มหาศาล คนที่เป็น สว. (สูงวัย) และยังมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน ต้องทานยาลดความดันโลหิตอยู่แล้ว มีเส้นเลือดหัวใจ สมองตีบ มีโรคไต การขาดน้ำ เกลือแร่ ทำให้เลือดข้น เกิดการ กำเริบของโรคเส้นเลือดตีบและโรคไต แม้แต่คนที่คิดว่าแข็งแรงยังหนุ่มสาว การขาดน้ำเกลือแร่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในสมองจะแปรปรวน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40 องศา แทนที่ตัวจะมีเหงื่อกลับ แห้ง ตัวร้อนจัด พูดสับสนไม่รู้เรื่อง ซึ่งถ้าถึงระดับนี้จะหมายถึงอาการ “ฮีตสโตรก” (Heat stroke) หรือ “อุณหฆาต” คือถึงตาย



ไม่ใช่แค่อุณหอัมพาต อ่อนแรงเฉยๆ อาการฮีตสโตรก คนไทยอาจจะคุ้นกันดีในชื่อโรคลมแดด โรคลมแดดเป็นภาวะวิกฤติของร่างกาย ที่ไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ เนื่องจากอากาศร้อนที่ เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง 5 - 10 องศาเซลเซียสในระยะเวลาสั้นๆ ภาวะนี้จะทำให้สมองรู้สึกชินชากับความร้อนที่ได้รับ จนไม่รู้สึกกระหายน้ำ ทั้งๆ ที่สมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกายเสียหาย ส่ง ผลให้ระดับความดันเลือดตก เลือดที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบไปเลี้ยงสมอง กล้ามเนื้อ และอวัยวะ ต่างๆ ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการไตวาย หากเป็นมากๆ เซลล์กล้ามเนื้อก็จะเริ่มแหลกสลาย มีของเสียตกตะกอนในไต ทำให้เกิด ไตวายซ้ำซ้อน และเสียชีวิตในที่สุด



โรคลมแดด จะเห็นเป็นข่าวบ่อยๆ กับชาวบังกลาเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตครั้งละมากๆ ฮีทสโตรกสำหรับคนไทยเป็นเพียงการเตือนแบบเบาะๆ ให้ระมัดระวัง ทั้งนี้เชื่อว่าอากาศร้อนในประเทศไทยจะไม่พุ่งสูงอย่างรวดเร็วเหมือนต่างประเทศ ที่ผ่านมา อุณหภูมิในบ้านเรา มักไต่ระดับทีละเล็กละน้อยครั้งละ 1-2 องศาเซลเซียส จาก 35 องศาฯ เป็น 36 องศาฯ และจาก 36 องศาฯ เป็น 37 องศาฯ จะไม่เพิ่มขึ้นจาก 35 องศาฯ ทีเดียวไปเป็น 40 องศาฯ การไต่ระดับสูงขึ้นทีละน้อย ร่างกายคนไทยจะชิน ปรับสมดุลได้เอง อาจไม่ต้องกังวลมาก



แต่อย่างไรก็ตาม เริ่มมีคนไทยตายจากฮีทสโตรกแล้วโดยเฉพาะในช่วง 5 - 6 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มทหารที่ต้องฝึกกลางแดด ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังอีก ได้แก่ ทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีความพิการ ทางสมอง จิตประสาทแปรปรวน เป็น โรคหัวใจ ความดัน คนเหล่านี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือปรับตัวเองได้ไม่ดี อีกข้อที่สำคัญ ความร้อนของอากาศ ยังขึ้นกับความชื้นในอากาศ ซึ่งป้องกันไม่ให้เหงื่อระเหยระบายความร้อนออกไม่ได้ ทำให้ความร้อนจริงที่ร่างกายต้องเผชิญสูงมากขึ้น ยิ่งอยู่กลางแดดและมีลมร้อนจัด สภาวะแวดล้อมแบบนี้จะอันตรายยิ่งขึ้น



ที่ต้องระวังในช่วงสงกรานต์ เช่นออกกำลังกายกลางแจ้ง ตีแบดฯ ตีเทนนิส ก็มีโอกาสเป็นลมแดดได้ และแม้อยู่ในที่อับ ร้อนจัด ชื้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ไม่ได้อยู่กลางแจ้ง ก็เป็นได้เช่นกันถึงแม้จะเสี่ยงน้อยกว่า

อันตรายที่เกี่ยว กับแดดและความร้อน (และชื้น) แบ่งระดับความรุนแรงได้ 4 ระดับ



ระดับแรก แดดเผา ผิวบวม แดง ลอก



ระดับที่สอง ตะคริวตามน่อง กล้ามท้อง



ระดับที่สามเพลียรุนแรง ใกล้จะช็อก ตัวเย็นชืดชื้น ชีพจรเร็วเบา เป็นลม อาเจียน แต่อุณหภูมิร่างกายยังปกติ



ระดับที่สี่ ฮีตสโตรกถือเป็นภาวะฉุกเฉินวิกฤติ อุณหภูมิร่างกายอาจสูงถึง 41องศาเซลเซียส ผิวแห้ง ร้อน ชีพจรเร็ว แรง อาจหมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิต เหมือนสมองและเครื่องในสุก



อาการฮีตสโตรก ต้องได้รับการรักษาโดยด่วนในโรงพยาบาล การปฐมพยาบาลขั้นต้น ให้ประคบ เย็นตามซอกตัว เช็ดตัว พัดลมระบายความร้อน นอนราบ ยกเท้าสูง หลบ แดด ผึ่งลม ประคบเย็น และจิบน้ำ ถ้าอาการหนักมาก การใช้น้ำเย็นอาจทำให้เกิดตะคริวท้อง ให้นอนราบหรือตะแคง หาก อาเจียนร่วมด้วย จำไว้ว่า การดื่มน้ำจะทำให้เกิดอันตรายในระดับ 3 และถ้ามีอาการในระดับ 4 ห้ามให้น้ำดื่มเด็ดขาด เพราะจะเกิดอันตรายรุนแรงได้



ระยะนี้การพยาบาลให้น้ำทางปากอาจเป็นอันตรายได้ ยิ่งถ้าคนสูงอายุมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับยา ดังกล่าวข้างต้น ยิ่งมีอันตรายสูงเข้าไปอีก คนอ้วน คนที่ดื่มสุรา เบียร์ ของหวาน จะมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะความสามารถในการปรับตัวกับความร้อนจะไม่ดี อาการก่อนหน้าที่ จะถึงขั้น อุณหฆาต อาจนำมาด้วยตะคริว หรือ หน้ามืด เพลีย คลื่นไส้ จะเป็นลม เพราะฉะนั้นให้ดื่มน้ำบริสุทธิ์มหาศาล อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร  ข้อสำคัญให้หลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำชา กาแฟ สุรา ถ้ายิ่งต้องออกไปกลาง แดดนานๆ

คุณอาจสนใจ

Related News