รถปูนแหกโค้ง พุ่งชนขบวนแห่นาค ดับ 3 เจ็บ 13 ราย คนขับชนแล้วหนี

รถบรรทุกปูนซีเมนต์ ซิ่งแหกโค้ง เสียหลักเฉี่ยวชนรถแห่นาค ก่อนพุ่งชนรถ 6 ล้ออีกคัน ก่อนเสียหลักพุ่งใส่ขบวนแห่นาค จนรถตกร่องน้ำข้างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 13 ราย ขณะที่คนขับรถปูนหลบหนีหลังเกิดเหตุ

วันที่ 27 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 15.30 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดมหาสารคาม 1669 ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุหมู่ เป็นรถบรรทุกปูนซีเมนต์เสียหลักพุ่งชนรถของขบวนแห่นาค ก่อนเสียหลักชนกับรถบรรทุก 6 ล้ออีกคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยเหตุเกิดบนถนนสายเชียงยืน-คำใหญ่ บริเวณทางโค้งบ้านหนองนาไร่เดียว ต.กุดปลาดุก อ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม

ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและกู้ภัยกำลังช่วยกันปฐมพยาบาลคนเจ็บ และลำเลียงส่งโรงพยาบาลชื่นชมอย่างเร่งด่วน โดยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลชื่นชม อีก 2 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่เหลือจำนวน 13 ราย 6 คนส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลมหาสารคาม 1 คน ส่งโรงพยาบาลขอนแก่น ส่วนอีก6คนรักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่นชม

จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า รถบรรทุกปูนซีเมนต์ มาจากทางบ้านคำใหญ่ มุ่งหน้าเข้าอำเภอชื่นชม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งเข้าหมู่บ้านหนองนาไร่เดียว รถได้เสียหลักข้ามเลนไปเฉี่ยวชนกับรถแห่นาค จากนั้นได้เสียหลักไปชนกับรถบรรทุกหกล้อ ที่กำลังจะขับออกจากขบวนแห่นาค แล้วรถบรรทุกปูนซีเมนต์ได้เสียหลักไปชนขบวนแห่นาคที่เดินแห่อยู่บนถนน แล้วรถบรรทุกได้เสียหลักตกร่องน้ำข้างทาง โดยผู้ขับขี่อาศัยเหตุการณ์ชุลมุนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทางด้านนางสาวอิงอร ปรีฉันท์ นายอำเภอชื่นชม กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวรถปูนวิ่งมาเร็วแล้วแหกโค้ง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนคนขับได้หลบหนีไป ตอนนี้เราได้ติดต่อทางบริษัท เอทีพี คอนกรีต ให้เข้ามาดูแลและจะได้ติดตามคนขับรถบรรทุกรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป ส่วนที่ทางเจ้าภาพไม่ได้ขออนุญาตในเรื่องการใช้เสียงและการขอนุญาติในการแห่ขบวนนาคกับกับทางจราจรกับ สภ.ชื่นชม ก็ได้กำชับให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้มงวดในเรื่องนี้ด้วย และทราบอีกว่าได้มีการบอกกับทางผู้นำหมู่บ้านว่าจะแห่ เวลา 15.00 น .แต่ออกไปก่อนเวลาด้วย

ซึ่งตอนนั้นขบวนแห่ได้ออกไปช่วงนั้นกำลังชุลมุนวุ่นวาย ทั้งมีการหว่านเหรียญโปรยทานกันอยู่ รถแต่ละคันขับมาก็ได้จอดหลบกัน แต่รถโม่ปูนขับมาอย่างแรง ตะโกนบอกกันก็ไม่ทัน พอหลุดโค้งมาก็เข้าไประหว่างกลางของรถดินที่จอดหลบอยู่กับรถกระบะที่แห่นาคเบียดกันแล้วก็เสียหลักไปชนทับคนในขบวนเสียชีวิตคาที่

นางวรรณา อุปนันท์ อายุ 47 ปี หนึ่งในผู้ที่ร่วมขบวนแห่นาค เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุกำลังช่วยกันเก็บกัลปพฤกษ์หรือเหรียญโปรยทานอยู่ตรงต้นมะขาม รถนาคกำลังเคลื่อนตัวไปมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่กำลังเก็บเหรียญโปรยทาน มีคนที่โบกรถก็โบกรถไปเพื่อให้รถที่ผ่านทางชะลอรถ แล้วก็กวักเรียกรถแห่ให้รีบตามมาให้ทัน เพราะว่าจอดห่างกันมากไม่นานรถปูนก็วิ่งมาอย่างแรงแหกโค้งมาชนคนระเนระนาดไปหมด ต่างคนก็ต่างร้องเรียกให้ช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บ จนทำอะไรไม่ถูก

ด้าน นายกิตตินัน อุทัยญา คนขับหกล้อดิน กล่าวว่า ตนเห็นขบวนนาค ก็ได้ชะลอรถจอดไว้ เพราะมองเห็นรถโม่มาแรง จากนั้นรถโม่ก็เสียหลักพุ่งข้ามไปเฉี่ยวกระบะที่นาคนั่ง จากนั้นก็ตกคลองลงไปฝั่งตรงข้าม ส่วนคนขับรถปูนได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ