ผัวหึงโหด ถูกบอกเลิกเพราะติดยา ไม่ทำงาน บุกยิงเมีย-แม่ยายเจ็บ

ศาลพัทลุงอนุมัติหมายจับสามีวัย 26 ปี หึงโหด ถูกบอกเลิกเพราะติดยา ไม่ทำงาน บุกยิงภรรยาและแม่ยายได้รับบาดเจ็บ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 6 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุขแก้ว สารวัตเวร สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีมีเหตุยิงกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ2 ราย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 5 ม.9 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก. สภ.เมือง พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง พ.ต.ท.หาญพล รามด้วง รอง ผกก.สืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง



บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ภายในห้องนอนเจ้าหน้าที่พบเพียงรอยเลือด และรอยกระสุนปืนตรงบริเวณฝาผนังห้อง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดี ได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อคือนาง สุภาพร เลิศไกล อายุ 50 ปี มีบาดแผลถูยิงเข้าบริเวณราวนมขวา อาการสาหัส นางสุฑารัตน์ เลิศไกล อายุ 24 ปี ลูกสาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ชนิดเดียวกันเข้าบริเวณสะโพก และขาขวา จำนวน 2 นัด พลเมืองดีได้รีบนำส่งโรงพยาบาลพัทลุง ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง



และในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายครินทร์ เพชรแก้ว อายุ 26 ปี สามี อาจจะหลบหนีกลับไปบ้านที่เลขที่ 113 ม.5 ต.ตำนาน ห่างออกไปราว 5 กิโลเมตร ด้าน พ.ต.อยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ได้ประสานหน่วยปฎิบัติการพิเศษ นปพ.ชุด ฉก.เสือดำ ระดมกำลังติดตามไปยังบ้านพัก ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่เจอตัว พบแต่ผู้เป็นแม่ นางอรุณี เพชรแก้ว อายุ 55 ปี เบื้องต้นผู้เป็นแม่บอกเพิ่งทราบเรื่องหลังจากลูกสะใภ้โทรมาบอกว่าลูกชายไปที่บ้านแล้วยิงเมียแม่ยายเจ็บ แต่ยอมรับรับว่าลูกชายยังไม่กลับมาบ้าน ส่วนสาเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ลูกชายโทรบอกว่าทะเลาะกับเมีย แต่ไม่บอกสาเหตุเพราะกลัวว่าตัวเองไม่สบายใจ ลูกชายแต่งงานกับลูกสะใภ้ มาแล้ว 6 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ แล้วก็ไม่ได้เล่าอะไรต่อ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกแม่ผู้ก่อเหตุให้รีบนำลูกชายมามอบตัว เพราะหนีกฎหมายนั้นมันหนียาก



ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ และเห็นเหตการณ์ ไปกว่า 5 ปาก ก่อนขออนุมัติหมายศาลจังหวัดพัทลุง เพื่ออกหมายจับนายครินทร์ หรือทองดี เพ๊ชรแก้ว สามีโหด ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารรณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วน ตามสมควร





ขณะที่การติดตามตัวมาดำเนินคดีนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามผู้ก่อเหตุแต่ยังไม่เจอตัว  ในเบื้องต้นจากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ในจุดเกิดเหตุ เพื่อหากล้องวงจรปิดและเส้นทางที่หลบหนี แต่กล้องวงจรปิดของชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเสีย ไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณืหรือเส้นทางหลบหนีแต่อย่างได



ในขณะที่เพื่อนบ้านระบุมูลเหตุนั้นเกิดจากที่ฝ่ายภรรยาตัดสินในบอกเลิก เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ทำมาหากินอะไร และเกี่ยวข้องกับยาเสพเสพติด เพื่อนบ้านทุกคนรู้ดี จนทะเลาะกัน และฝ่ายหญิงบอกเลิก จนกระทั่งสามีกลับไปอยู่บ้านได้ 1 เดือนกว่า จนกลับมาก่อเหตุดังกล่าว