เดือดร้อนจนนอนไม่ได้ ถูกเพื่อนบ้านยิงหินใส่บ้านนาน 3 ปี แจ้งความหลายครั้ง ยังไม่มีจนท.ช่วยเหลือ

ชาวบ้านร้องสื่อถูกเพื่อนบ้านก่อกวน ยิงก้อนหินใส่บ้านนาน 3 ปี จนกระจกหน้าต่าง กระจกรถ หลังคาบ้านแตกเสียหาย แจ้งความไปหลายครั้ง แต่ตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ



วันที่ 25 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายฐิติภัทร พิมมะ อายุ 48 ปี และนางดวงพร พิมมะ อายุ 48 ปี 2 สามีภรรยาอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.9 ต.หนองปลาหมอ อ.หนองแค จ.สระบุรี ว่าบ้านของตนถูกเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร กลั่นแกล้งยิงปืนลม และหนังสติ๊กก่อกวน บ้านได้รับความเสียหาย กระจกแตก หลังคาบ้านแตก เป็นเวลา 2 ปีกว่าแล้ว แจ้งตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ อ้างหลักฐานไม่เพียงพอ และครอบครัวใช้ชีวิตแบบปกติไม่ได้ กลางคืนยิงตลอด แทบไม่ได้หลับได้นอน แฟนเป็นพยาบาล ลงเวรมาจะพักผ่อนก็ไม่ได้ ถูกก่อกวนตลอด เด็กและครอบครัวออกทำกิจกรรมในสวนหรือนอกบ้านไม่ได้ เพราะเสี่ยงอันตรายมาก เป็นแบบนี้หลายปี แต่ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ จนแฟนจะลาออกจากพยาบาล ใช้ชีวิตไม่มีความสุขเลย เครียดมาก เพราะครอบครัวและเด็ก ๆ ต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ บ้านของตนไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน เขาทะเลาะกับบ้านอีกหลัง ซึ่งเป็นบ้านของคนจนและมีเด็กเล็ก ๆ 3 คนที่บ้านติดกับบ้านของตน แล้วพาลมาถึงบ้านนี้



ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ทราบหมดว่า เพื่อนบ้านคนดังกล่าวเป็นคนคอยรังควานคนอื่น ติดยา ชอบแกล้งคนอื่นด้วยการกระทำที่แย่ ๆ รู้สึกสงสารแม่ลูก 3 ที่ถูกรังแกมาตลอด 3-4 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจมาหลายรอบแล้ว แต่หลักฐานไม่เพียงพอ ทำอะไรไม่ได้ เขาจึงไม่เกรงกลัวอะไรเลย



วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 59 ม.9 ต.หนองปลาหมอ อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายฐิติภัทร พิมมะ อายุ 48 ปี และนางดวงพร พิมมะ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น และเมื่อสำรวจดูรอบ ๆ บ้าน พบว่า หลังคาโรงรถมีรอยแตกเป็นรูโหว่จนทั่วไปหมด

นายฐิติภัทร ยังพาผู้สื่อข่าวไปดูรอยกระจกหน้ารถซึ่งมีรอยแตกร้าว จากการถูกก้อนหินยิงใส่ รถอีกคันก็ถูกก้อนหินยิงใส่ แต่ได้เปลี่ยนกระจกไปแล้ว และกองก้อนอิฐ ที่เก็บได้จากภายในบ้านหลังถูกยิงใส่เป็นกองใหญ่ ซึ่งเป็นก้อนอิฐขนาดต่าง ๆ บนชั้น 2 ของบ้านพบว่า กระจกหน้าต่างมีรอยแตกร้าวหลายบาน เศษก้อนอิฐกระจัดกระจายเกลื่อนหลังคาเต็มไปหมด ตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อจับภาพ แต่ก็ไม่เห็นทิศทางกระสุนที่ยิงมา มีเพียงเสียงลูกก้อนอิฐที่ตกกระทบกับหลังคา



นายฐิติภัทร เล่าว่า ตนเองก็ไม่ทราบว่าเหตุที่เริ่มยิงกันครั้งแรกนั้นเกิดจากอะไร แต่ที่ตนเองเข้าแจ้งความครั้งแรก เกิดจากว่า ตนเองคิดว่าลูกกระสุนได้พลาดมาโดนใส่หลังคาบ้านของตน ซึ่งเหตุการณ์ดงกล่าวเกิดมา 3 ปีแล้ว มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแรกๆ จะเป็นลูกปืนลม ที่ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนได้แจ้งไปกับร้อยเวร ของสภ.หนองแคไว้แล้ว เป็นลูกเหล็กยิงใส่กระจกรถ



ระยะหลัง ๆ จะเป็นลูกหิน โดยใช้หนังสติ๊กยิงเข้ามา การยิงจะยิงไม่เป็นเวลา กลางคืนยิงทั้งคืน โดยตนได้แคปไทม์ไว้ว่ายิงเวลาไหนบ้าง ซึ่งจะยิงใส่ตัวบ้าน ใส่กระจกหน้าต่างจนแตกได้รับความเสียหาย สิ่งที่ได้รับความเสียหาย เป็นกระจกหน้าต่าง หลังคา และกระจกรถยนต์หน้าแตก 2 คัน แต่ได้เปลี่ยนกระจกไปแล้ว 1 คันคงเหลืออีก 1 คันที่ยังไม่ได้เปลี่ยน



ซึ่งตอนนี้ตนอยากร้องขอความช่วยเหลือจาก ผกก.สภ.หนองแค อยากให้ลงมาช่วย ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนมาก การยิงใส่บ้านจะเป็นเวลาที่ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งบนหลังคาบ้านจะมีลูกก้อนอิฐ (ลูกกระสุน) เต็มหลังคาบ้าน ตอนนี้ตนเองหวาดระแวงว่าคนในครอบครัวจะได้รับอันตรานโดนลูกกระสุน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมาเวลาไหน กิจกรรมภายในครอบครัวทำไม่ได้เลย เคยเล่นตีแบดมินตันกันหน้าบ้าน ก็เล่นไม่ได้ เคยเข้าสวนก็เข้าไม่ได้ เนื่องจากไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะโดนลูกกระสุน เด็ก ๆ เดินเข้าบ้านต้องเดินก้มหน้า ห้ามเงยหน้าเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าจะโดนตอนไหน ตอนนี้ตนย้ายลูกมานอนรวมกันหมด 4 คนพ่อแม่ลูก เนื่องจากลูก ๆ อยู่ในสภาวะหวาดระแวง



ทางด้านนางลำพึง มวลชู อายุ 46 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 62/1 ม.9 ต.หนองปลาหมอ อ.หนองแค จ.สระบุรี ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูบ้านของตน ซึ่งก็ถูกนายมงคล (แป๊ะ) เหล็กสงค์ ใช้ก้อนอิฐขว้างใส่หลังคาบ้าน และโอ่งน้ำแตก พร้อมทั้งทำลายรั้วบ้านพัง โดยมีร่องรอยก้อนอิฐ ก้อนใหญ่ อยู่บนหลังคาเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายแป๊ะก่อเหตุที่บ้านตนมาแล้วถึง 4 ปี บางครั้งก็ปาก้อนอิฐเข้าไปในบ้านโดนหัวลูกสาวตนเองจนหัวแตก ซึ่งอิฐใช้ขว้างจะเป็นอิฐบล็อกที่แตกหักแล้ว บางครั้งก็จุดประทัด (บอล) ขว้างเข้าในบ้าน



นางลำพึง เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่กับลูกอีก 3 คน ซึ่งบ้านของตนโดนนายมงคล (แป๊ะ) ขว้างก้อนหินใส่ ทั้งจุดประทัดเข้าภายในบ้าน เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ๆ บางครั้งก็ใช้น้ำอุจจาระสาดใส่บ้านของตน พอสาดเสร็จก็จะขว้างหรือยิงก้อนอิฐใส่บ้านตน ตั้งแต่ตนมาซื้อที่อยู่ก็เคยที่จะ ทะเลาะอะไรกับเขา คือต่างคนก็ต่างอยู่ วันดีคืนดีตนก็ถูกนายแป๊ะ กล่าวหาว่าตนเองกับลูก ไปยิงก้อนหินใส่บ้านเขา ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ทำ ตนเองจึงต้องปล่อยหลังบ้านให้รกอยู่อย่างนี้ สิ่งที่ได้รับความเสียหายก็จะเป็นหลังคาบ้าน และสภาพจิตใจทุกอย่าง ซึ่งแต่ก่อนตนเองก็ถูกทำร้ายร่างกาย โดยนายแป๊ะ เข้าต่อยที่ใบหน้า ต้องอยู่อย่างหวาดผวา ลูก ๆ ก็อยู่ไม่ได้ต้องไปจ้างพี่สาวดูแล เนื่องจากลูกเป็นผู้หญิง จะเข้าบ้านได้ก็ต่อเมื่อตนเองเลิกจากงาน ซึ่งตนเองไปแจ้งความไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งใบแจ้งความตอนนี้โดนปลวกแทะหมดแล้ววางกองอยู่ในบ้าน ซึ่งตนได้แจ้งความไว้เป็น 10 กว่าครั้งแล้ว อยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือด้วย เนื่องจากตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก ทั้งลูกและตนเอง ต้องทำมาหาเลี้ยงลูก จะปล่อยลูกเล่นเหมือนเด็กปกติก็ไม่ได้เลย และลูกๆของตนเองเป็นผู้หญิง และกำลังที่จะโตเป็นสาวด้วย ทำให้อยู่ยากมาก ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีเขาจะอย่างไรอีก ซึ่งตนก็ไม่รู้ความคิดเขา อยู่กับคนประเภทนี้ใช้ชีวิตลำบากมาก 4 ปีเต็ม ๆ ที่ตนเองทนมา ไม่คิดว่าจะมาเจอกับชีวิตตนเองแบบนี้



ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายมงคล (แป๊ะ) เหล็กสงค์ อายุ 39 ปี เล่าว่า ทางบ้านคู่กรณีไม่พอใจตนเหลายเรื่อง เนื่องจากว่าบ้านของนางลำพึง ไม่ค่อยถูกกับตน เนื่องจากว่าตนจุดลูกระเบิดไล่นก ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าจุดไล่นกที่ทำนาไว้ ส่วนที่บ้านของตนก็ถูกก้อนอิฐขว้างใส่ในบ้าน จนทำให้กระจกภายในบ้านของตนก็แตก รถตนเองก็ได้รับความเสียหาย ไฟตัดหมอกก็แตก จนต้องทำรั้วสังกะสีกั้นไว้ และได้แจ้งความเอาไว้เหมือนกัน



ซึ่งตนคิดว่าเพื่อนบ้านตนคงไม่พอใจตนเองที่ขับรถเข้าออกเสียงดัง ตนเองเคยไปตัดต้นไม้ที่ละมาทางถนน ก็เคยถูกด่ามาแล้ว ซึ่งตนเองก็มีคลิปลูกหินที่ลอยมาจากบ้านคู่กรณีมากระเด็นใส่บ้านของตน กลับถูกหาว่าตนเองไปแกล้งเขา ซึ่งตนก็ไม่เห็นตัวคนทำ ก็ทำอะไรไม่ได้ โดยส่วนตัวแล้วตนเองกับคู่กรณีไม่เคยได้พูดคุยกันในเรื่องจุดลูกระเบิดไล่นก ซึ่งมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ส่วนตัวเองไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก ถ้าไปหาเรื่องเขาก็มีแต่ตนเองที่จะเสีย เนื่องจากตนเองเด็กกว่า ซึ่งถ้าคิดว่าตนเองทำ และคิดจะจับตนเองทำไมจะจับไม่ได้

โดยนายแป๊ะกล่าวว่าตนเองถูกยิงใส่มาที่บ้าน และตนเองจึงได้โต้ตอบไป ซึ่งถ้าตนเองทำทำไมเอาตำรวจมาดักรอดู ถ้าจริงก็จับตนเองได้แล้ว โดยบอกว่าเขาหาเรื่องสุดๆ ถ้าตนเองอยู่บริเวณบ้านตนจะสามารถยิงใส่กระจกบ้านคคู่กรณีได้ไหม ซึ้งก้อนหินที่กองอยู่บนหลังคาบ้านคู่กรณีนั้น มีมาตั้งแต่เขาทำบ้านแล้ว ไม่ใช่จะพึ่งมีมา มีมาหลายปีแล้ว ตนเองบอกได้เลยว่าตนเองไม่ได้ทำ ซึ่งตนเองก็โดนก้อนหินปาใส่บ้านทุกวัน