สังคม

เจ้าของร้านชำร้องสายไหมต้องรอด ถูกกลุ่มชายอ้างเป็น จนท.สรรพสามิต ยัดบุหรี่ปลอม อุ้มขึ้นรถรีดเงิน

โดย panisa_p

16 ก.พ. 2566

187 views

นายเอกภพ เหลืองประเสิรฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานางสุณาภรณ์ หรือป้าพร เจ้าของร้านขายของชำ ซอยพหลโยธิน 52 เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต 5 นาย ที่เข้ามาตรวจค้นร้านขายของชำ และยัดบุหรี่ปลอม 1 ซองให้ผู้เสียหาย และรีดทรัพย์ได้เงินไป 5,500 บาท


ป้าพร ระบุว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. ขณะที่กำลังขายของอยู่ที่ร้าน ได้มีกลุ่มชาย 5 คน นั่งรถตู้เข้ามา พร้อมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต โดยทั้งหมดแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นร้านค้าตนเอง ซึ่งตอนแรก มีการขอตรวจใบเสียภาษีซึ่งตนเองได้แสดงให้ดูก็ไม่พบความผิดปกติ ก่อนจะมีเจ้าที่อีกคนหนึ่งพยามดันตนเองเข้าไปภายในห้องนอน ซึ่งเป็นที่เก็บของเพื่อค้นบุหรี่และสุรา


ซึ่งตนเองได้พยามบอกว่าห้องนี้เป็นห้องนอน ไม่อนุญาตให้เข้า แต่เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวไม่ยอมและมีการพยายามเปิดลิ้นชัก เพื่อดูเงินในลิ้นชัก และเจ้าหน้าที่อีกคนขอนำบุหรี่จำนวนสองแถวไปทำการตรวจสอบที่รถ ก่อนที่จะเดินย้อนกลับมาแล้วบอกกับตนเองว่า มีบุหรี่จำนวนหนึ่งแถวที่เป็นของปลอม ไม่มีการเสียภาษี จึงเชิญตัวให้ตนเองเดินตามไปเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ปลอม และแจ้งว่าต้องจ่ายเงินจำนวน 20,000 บาท เป็นค่าปรับบุหรี่ปลอม


ซึ่งตนเองได้บอกว่าหากจะต้องมีการจ่ายเงินจำนวน 20,000 บาท ตนเองไม่ยอม ขอให้ทำเรื่องที่ สน. และจับตนเองติดคุกไปเลย เพราะตนยืนยันว่าบุหรี่ที่ซื้อมามีการซื้อมาจากร้านใหญ่ มีใบเสียภาษี หากว่าเป็นบุหรี่ปลอมควรจะเป็นบุหรี่ปลอมทั้งหมดทุกล็อตที่ตนเองซื้อมา แต่ทำไมจึงมีเพียงแถวเดียว


เมื่อกลุ่มชายดังกล่าวดันตนเองขึ้นรถ ได้มีการล็อกรถและพาขับรถวนไปในหมู่บ้าน เพื่อพยายามเรียกเงินจำนวนดังกล่าว แต่ตนเองได้ยืนยันว่าไม่มี ก่อนที่จะมีคนในกลุ่ม ถามว่าเงินในกระเป๋ามีเท่าไร ให้ส่งมาใส่ในกระติกน้ำแข็ง ซึ่งเป็นเงินจำนวน 5,500 บาท ด้วยความหวาดกลัวว่าจะไม่ได้รับอิสรภาพจึงต้องยอมให้เงินจำนวนดังกล่าวไป เมื่อกลุ่มชายดังกล่าวได้เงินไปก็ส่งตัวกลับมาปล่อยที่ร้านตามเดิม


ด้านนายเอกภพ ระบุว่า ตนเองอยากฝากบอกทั้ง 5 คน นี้ ว่ากลุ่มพวกคุณมีชื่อเสียงอยู่ในพื้นที่สายไหม เพราะเคยมีคนมาแจ้งเรื่องแต่ยังไม่มีหลักฐาน ครั้งนี้มีหลักฐานจึงเข้าแจ้งความ และขออย่าให้ไปทำกับใครอีก โดยเฉพาะในเขตสายไหม ถ้าทำอีกรับรองว่าถึงคุกแน่นอน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ก็เข้าคุกเยอะแยะถ้าทำผิด ซึ่งยังต้องตรวจสอบอีกว่าเป็นเจ้าที่ของกรมสรรพสามิตจริงหรือไม่ หากเป็นเจ้าหน้าที่จริงกรมสรรพสามิต ก็จะเป็นอีกหนึ่งกรมที่จะต้องอยู่ในคุกก็คงไม่แปลก


ขณะที่พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ระบุว่า เบื้องต้นถือว่ากระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์แต่จะมีการสอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงพยานในจุดเกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าพฤติการณ์เข้าข่ายจนถึงขั้นสามารถแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ได้ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาดังกล่าว โดยพร้อมกันนี้จะตรวจสอบว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าที่ของกรมสรรพสามิตจริงหรือไม่ โดยจะมีการประสานไปที่ต้นสังกัดว่าในวันดังกล่าวได้มีการสั่งการให้มาตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวจริงหรือไม่

คุณอาจสนใจ

Related News