จอดรถเปิดเพลงดัง ไม่สนโลก 6 ชม. ตำรวจมาช่วยยังเฉย ต้องงัดรถ พบนั่งเหม่อ เจอเข็มฉีดยา

หนุ่มจอดรถกระบะบนสันเขื่อนเปิดเพลงเสียงดัง ไม่สนโลก คนพบเห็นเรียกไม่ขาน ไม่สนใจ นานกว่า 6 ชม. เรียก ตร.กู้ภัยมาช่วยยังเฉย ต้องใช้ช่างกุญแจมางัดรถควบคุมตัวสภาพเหม่อลอยขาดสติ ค้นรถเบื้องต้นพบเข็มฉีดยาและอุปกรณ์หลายชนิด จนท.เก็บไปตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.66 เมื่อเวลา 21.00 น. ร.ต.อ.สิทธิชัย สมญาติ รอง สวป.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีบุคคลต้องสงสัย จอดรถอยู่ริมอ่างเก็บน้ำ เปิดเพลงเสียงดังภายในรถนานกว่า 6 ชม.เกรงว่าจะเป็นอันตราย เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม เข้าร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิ ไทรทัน สีส้ม จอดอยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย พบชายอายุประมาณ 40 ปี ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามสีขาว สวมหมวก นั่งอยู่ตรงคนขับ ลักษณะนั่งนิ่ง เปิดเพลงเสียงดังตามที่ชาวบ้านแจ้ง

เจ้าหน้าที่พยายามเคาะเรียกให้เปิดประตู แต่ไม่ได้ผล ยังนั่งกดโทรศัพท์เปิดเพลงเสียงดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่กว่า 20 นายที่พยายามเรียกอยู่รอบรถด้วยความเป็นห่วง

สุดท้ายต้องใช้ช่างกุญแจรถมาเปิดประตู ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจึงเปิดประตูได้ แต่ชายคนดังกล่าวยังไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังลากลงมาเพราะเกรงจะได้รับอันตราย กระทั่งยอมลงมาจากรถแต่ไม่ยอมพูดคุยกับใคร ทำตัวลอยตัวเหมือนคนเหม่อลอยไม่ได้สติ ทราบชื่อเบื้องต้นนายอำนาจ โชติยา เป็นชาว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

จากการตรวจค้นภายในตัว พบซองพลาสติกใสเหมือนใส่สารเสพติด และเข็มฉีดยาอยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นสารอะไร ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน นำตัว สภ.เมือง เอาไว้ก่อน ยังไม่ทราบว่าอุปกรณ์ที่พบเป็นการเสพยาหรือไม่

สอบถามนายวัชรินทร์ พันธ์ทุม อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เล่าว่า บริเวณนี้เป็นจุดที่ให้ประชาชนทั่วไปมาออกกำลังกายและชมนกธรรมชาติ จะปิดเวลา 18.00 น.

เห็นรถคันดังกล่าวมาจอดตั้งแต่เวลา 16.00 น.ไม่มีคนลงจากรถ ติดเครื่องเปิดแอร์ เห็นคนนั่งอยู่ในรถคนเดียว เมื่อถึงเวลาปิด ได้เข้าไปเคาะเรียกให้ออกจากสถานที่ราชการ แต่ไม่ได้รับคำตอบ ไม่หันหน้ามาหา ทั้งยังเร่งเครื่องยนต์ใส่เป็นระยะ พรอ้มกับเปิดเสียงเพลงเสียงดังสนั่น สุดท้ายต้องเรียกเจ้าหน้าที่ให้มาช่วย เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่พบ หลังจากนี้จะมีการเข้มงวดในการเข้าออกมากกว่านี้