ถอดกำไล EM จ่ายเงินประกันคืนแล้ว! หนุ่มวิน จยย.ตกเป็นแพะ ถูกจับผิดตัวเพราะชื่อ-สกุลเหมือนคนร้าย

ที่ศาลจังหวัดตราด ช่วงสายวันนี้ 8 กพ. 66 พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก สว.สส.สภ.หนองบอน ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ พร้อมนายพยุง และนางจันทร์เพ็ญ ภรรยา และมูลนิธิวินวิน โดยวันนี้ศาลยกฟ้องและทำการถอดกำไล EM พร้อมถอนเงินประกันตัว ก่อนไปทำเรื่องที่อาคารบูรณาการ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดตราด

โดยมีนางวราภรณ์ นพณัฐวรพันธ์ ยุติธรรมจ.ตราด และ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจ.ตราด เจรจาสรุปเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบอน เข้าห้องเจรจาเป็นการส่วนตัวกับนายพยุง และภรรยา ใช้เวลาในการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องราว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานกว่า 1 ชม.

หลังจากนั้นเวลา 12.14 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบอนพ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก สว.สส.สภ.หนองบอน พร้อมนายพยุง และภรรยา จึงกลับเข้ามาในห้องประชุม เพื่อสรุปเรื่องราวดังกล่าวอีกครั้ง โดยนางวราภรณ์ นพณัฐวรพันธ์ ยุติธรรม จ.ตราด และ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจ.ตราด กล่าวถึงหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในเรื่องดังกล่าว ทางสำนักงานยุติธรรมจ.ตราด ได้พยายามติดตามเรื่องราว ช่วยเหลือ จนทุกอย่างจบลงด้วยดี ตอนนี้นายพยุง พ้นจากการเป็นผู้ต้องหา แต่กลายเป็นผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเรื่องที่นายพยุง จะเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมของตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้เองต่อไป

ซึ่งเมื่อปลาย พ.ย. 2564 ตำรวจตามจับนายพยุง หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ข้อหาค้ามนุษย์ ในการขับรถตู้ พาต่างด้าวไปให้จีนที่กัมพูชา จากการขยายผลจากผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกจับไปก่อน โดยคนร้าย 5 คนหลอกชาวบ้านไปทำงานกัมพูชาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 64 ขยายผลตามจับ มีชื่อไปเกี่ยวข้องด้วย จึงมาร้องสื่อ

โดยวันเกิดเหตุ 1 พ.ย. 64 ตัวเองไม่อยู่ แต่ไปเที่ยวอัมพวา จ.สมุทรสงคราม ไม่ได้ไปบ่อไร่ จ.ตราด ตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง โดยตำรวจนำหมายศาลมาจับกุมตัว และส่งฟ้องศาล ตนเองต้องประกันตัวด้วยเงิน 30,000 บาท และต้องใส่กำไล EM ตลอดเวลา อีกทั้งต้องเดินทางมารายงานตัวที่ จ.ตราด รวมทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน

ซึ่งเรื่องดังกล่าวตำรวจอ้างว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับตัวได้ก่อนหน้านี้ ซัดทอดว่า นายพยุง คือคนขับรถตู้รับส่งเหยื่อไปส่งประเทศกัมพูชา ตนพยายามอธิบายว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ไม่เคยขับรถตู้ และวันเกิดเหตุตนเองก็ไม่อยู่บ้านแต่ก็จำนนด้วยต้องปฏิบัติตามหมายศาล จ.ตราด

หลังจากนั้นก็รวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่มี คือพิกัดการเดินทางไปอัมพวา จ.สมุทรสงคราม และร้องสื่อ มูลนิธิวินวิน จนสุดท้าย 3 ก.พ. 66 ตำรวจถอนฟ้อง เพราะไม่มีหลักฐานว่านายพยุงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ซึ่งชื่อพยุง ซ้ำกันถึง 6 คน รวมทั้งตนเองด้วย

ในส่วนของพ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก สว.สส.สภ.หนองบอน ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ ตัวแทน สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบอน บอกว่าทุกอย่างจบลงแล้ว ทางตำรวจได้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

นายพยุง ที่เปลี่ยนจากผู้ต้องหา ในสภาพแพะ มาเป็นผู้เสียหายในครั้งนี้ บอกว่าวันนี้ดีใจเหมือนถูกรางวัลที่ 1 เพราะตนเองพ้นเคราะห์ เหมือนยกภูเขาออกจากอก ก็ไม่ถือโทษโกรธเคืองเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะถือว่า ทำตามหน้าที่ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีความรอบคอบ ตรวจสอบให้แน่ชัด

เรื่องราวของตนเองมีชื่อซ้ำกัน รวม 6 คน แต่เลข 13 หลักไม่ตรงกัน เป็นเรื่องที่ตำรวจจะต้องรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกี่ยวกับการตามจับผู้ก่อเหตุค้ามนุษย์ ส่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยตำรวจตามจับตนเองถึงบ้าน แม้จะพยายามชี้แจงแต่ก็ไม่พ้นต้องถูกจับมาส่งฟ้องดำเนินคดี สุดท้ายตนเองมีพยาน หลักฐานและร้องสื่อจนข้อเท็จจริงกระจ่าง ทางตำรวจจึงสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว