ยายวัย 75 ยกมือไหว้ท่วมหัว ขอพรพระไม่ให้ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง พ้อไม่มีเงินซ่อมบ้านลูกสาว

วันที่ 26 ม.ค.66 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เลขที่ 202/12 ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 84 (ซอยวัดคู่สร้าง) แยกซอยหมอเสริม 2 ซอยย่อยซอยจัดสรรตำรวจซอย 4 หมู่ที่ 6 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานขอรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ในคลองบางปลากดจำนวน 4 คัน รถดับเพลิงอาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานครจำนวน 4 คัน รวม 8 คันรีบเดินทางไปให้การช่วยเหลือและระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ขนาด 2 ชั้นปลูกติดกันจำนวน 2 หลังบนเนื้อที่กว่า 100 ตาราวา พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านหลังในสุดอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างเร่งลากสายฉีดน้ำรีบฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านอีก 1 หลัง โดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พบเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง

จากการสอบถาม นางสร้อยทอง จันทร์กลม อายุ 75 ปี แม่ของเจ้าของบ้านซึ่งยังอยู่ในอาการที่ตื่นตระหนกตัวเนื้อสั่นเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนางสาวจินดาพร จันทร์กลม อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว ก่อนเกิดเหตุคนในบ้านออกไปทำงานกันหมด มีเพียงตนเองที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ส่วนสามีอยู่บ้านอีกหลัง

ก่อนเกิดเหตุตนได้ขึ้นไปไหว้พระบนบ้านก่อนที่จะเดินลงมาเตรียมของใส่บาตรพระ แต่ตนเองลืมไปว่าวันนี้พระไม่ได้มาเดินบิณฑบาตหน้าบ้าน ตนจึงเดินกลับไปที่บ้าน ได้สินเสียงคล้ายคนจุดประทัดดังหลายครั้งมาด้านหลังบ้าน จึงเดินไปดูพบว่าเพลิงกำลังไหม้บ้านจึงรีบเดินไปหยิบสายยางและเปิดน้ำเพื่อฉีดดับไฟแต่น้ำไม่ไหล เนื่องจากพวกลูก ๆ น่าจะปิดน้ำไว้ จึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันให้รีบมาช่วยกันดับไฟและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยดับเพลิงให้รีบเดินทางมาให้การช่วยเหลือ

ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวสอบถามอยู่นั้น นางสร้อยทองได้แต่ยกมือไหว้ท่วมหัวขอพรพระให้ช่วยคุ้มครองไม่ให้ไฟไหม้บ้านหมดทั้งหลัง พร้อมตัดพ้อว่าจะทำอย่างไรดี บ้านของลูกไหม้เสียหายหมดแล้ว ตนแค่มาอาศัยเข้าอยู่เท่านั้นจะเอาเงินที่ไหนมีซ่อมแซม ข้าวของเสียหายทั้งหมด ต้องฆ่าตัวตายไหมนี่

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเชิญคนในบ้านไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง พร้อมทั้งจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท