สาวร้องถูกลูกเขยร้านหมูกระทะชื่อดังแอบถ่ายขณะเข้าห้องน้ำ ซ้ำเจ้าของร้านขออย่าเอาเรื่อง เสียเวลา

สาวร้องถูกลูกเขยเจ้าของร้านหมูกระทะแอบถ่ายขณะเข้าห้องน้ำในร้าน ผู้ก่อเหตุรับทำจริง เจรจาขอไกล่เกลี่ยแลกกับการไม่เอาเรื่อง ด้านเจ้าของร้านหมูกระทะแจง เป็นความเข้าใจผิด เพราะพนักงานร้านที่ก่อเหตุ มักแกล้งแฟนสาวเล่นเป็นประจำ แต่วันเกิดเหตุเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนสาว ยันไม่ได้มีการบันทึกหรือถ่ายภาพ

ทนายตั้ม ได้โพสต์ในเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ภาพนิ่ง พร้อมข้อความว่า “สาวร้องไปกินหมูกระทะร้านดังแม่กลอง ถูกลูกเขยเจ้าของร้านแอบถ่าย ขณะเข้าทำธุระในห้องน้ำ เจ้าของร้านพยายามเจรจาไม่ให้น้องเอาเรื่อง บอกว่าเสียเวลา และสงสารลูกเขย”

ทีมข่าวพูดคุยกับผู้เสียหายรายนี้ คือ คุณต่าย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ซึ่งจากการพูดคุยเบื้องต้นกับทีมข่าวยังเห็นได้ชัดว่า เจ้าตัวยังค่อนข้างเครียด เวลาเล่าเรื่องราวให้ที่เกิดขึ้นยังมีอาการหวาดกลัว จนทำให้ต้องไปปรึกษาจิตแพทย์

คุณต่าย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 29 ธันวาคม 65 ตอนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ถึง 4 ทุ่ม ที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ในอำเภอแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม โดยเธอไปกินกันทั้งหมด 4 คน คือ คุณต่าย แฟนคุณต่าย และเพื่อนอีก 2 คน

ระหว่างรับประทาน คุณต่ายชวนแฟนจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำของที่นี่มีอยู่เพียง 2 ห้อง เป็นห้องน้ำไม่แยกชาย-หญิง ตอนนั้นหญิงเจ้าของร้าน ตะโกนถามเธอว่า “ลูกค้าเข้าห้องน้ำใช่ไหมคะ” จึงตอบกลับไปว่า “ใช่ค่ะ” พอเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ ก็เห็นพนักงานผู้ชาย 1 คน เดินเข้าไปก่อน และก็มีพนักงานชายอีกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าบอกกับตัวเองว่า “ห้องน้ำด้านในอีกหนึ่งห้องว่างอยู่ เข้าไปใช้ได้เลย”

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นว่า ห้องน้ำที่ตนเข้ามีช่องว่างด้านบน ระหว่างกำแพงที่กั้นระหว่างห้องน้ำทั้ง 2 ห้อง ทำให้รู้สึกระแวง เพราะเห็นว่าก่อนหน้านี้ ห้องน้ำข้างๆ มีพนักงานชายเข้าไป เลยยืนรออยู่ในห้องน้ำก่อน โดยที่ยังไม่ทำธุระ แต่ไม่นานนัก ระหว่างที่ยืนรอ ก็เห็นมือถือจากห้องข้างๆ ยื่นมาแอบถ่าย เลยรีบเปิดประตูออกมาบอกแฟนว่า โดนแอบถ่าย และยืนรอคนทำ แต่เค้าไม่ออกมา

จึงถามพนักงานผู้ชายที่บอกให้ตนเข้าห้องน้ำตอนแรกว่า ใครอยู่ในห้องน้ำอีกห้อง แต่พนักงานบอกว่าใครเข้าไม่รู้ครับ น่าจะเป็นลูกค้า ตนจึงยืนรอ กระทั่งหญิงเจ้าของร้านมาถามว่า “ลูกค้าเป็นอะไรหรือเปล่า” เลยเดินไปแจ้งว่ากับเจ้าของร้านว่าโดนแอบถ่ายเป็นพนักงานในร้าน เค้าบอกเดี๋ยวดูให้ และขอให้เธอเดินกลับขึ้นไปที่โต๊ะก่อน ก่อนที่จะขึ้นมาขอโทษ และมาทราบภายหลังว่า คนที่ก่อเหตุ เป็นลูกเขยของเจ้าของร้านเอง ซึ่งตอนนั้นเจ้าของร้านพยายามที่จะเข้ามาไกล่เกลี่ยพูดคุย ขอโทษ และขอให้ไม่เอาเรื่อง แต่ตัวเองไม่ยอมจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม

ซึ่งตรงกับข้อมูลที่เธอได้ไปค้นหา จนเจอเฟซบุ๊กลูกเขยเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคนคนเดียวกับที่เข้าห้องน้ำห้องข้างๆ และโทรศัพท์มือถือ และเคสที่ใส่เป็นอันเดียวกับที่ยื่นเข้ามาแอบถ่าย ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ยอมรับว่ากระทำจริง แต่ไม่ทราบว่าทำมานานเท่าไหร่แล้ว ซึ่งตนมองว่าสถานที่แห่งนี้เป็นร้านหมูกระทะ ซึ่งไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

เหตุการณ์นี้ ทำให้เธอต้องโทรปรึกษาจิตแพทย์ ไม่กล้าออกไปไหน ยังหวาดกลัว และยังไม่สามารถเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมได้ ในวันที่พนักงานสอบสวน และชี้ตัวผู้ก่อเหตุ ที่นัดหมายเมื่อวันที่ 1 มกราคม 66

อยากบอกกับผู้ก่อเหตุว่าที่จะรับผิดชอบค่าเสียหาย ตนไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากให้รู้ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น ต่อให้ยังไม่ได้ทำธุระส่วนตัว แต่มันคือการกระทำความผิด และต้องยอมรับในสิ่งที่ตนเองกระทำลงไป

ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านหมูกระทะที่เกิดเหตุ และได้เจอกับหญิงเจ้าของร้าน ซึ่งอนุญาตให้ทีมข่าวบันทึกภาพห้องน้ำ ที่เป็นจุดเกิดเหตุของร้านได้

โดยที่ร้านมีห้องน้ำ 2 ห้อง ซึ่งห้องที่ผู้เสียหาย เป็นห้องทางซ้าย ไม่เข้าไปด้านในจะมีช่องว่างด้านบน ของผนังที่กั้นระหว่างห้องน้ำ สูงประมาณ 25-30 เซนติเมตร เบื้องต้นทางร้านได้นำเอาแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดมาปิดไว้ชั่วคราว โดยห้องน้ำนี้ มีส้วมนั่งยองๆ และถังอาบน้ำ ฝักบัว

ส่วนห้องทางด้านขวา ที่ผู้ก่อเหตุเข้า ก็มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งช่องว่างที่ผู้ก่อเหตุเอามือถือชูขึ้นไปถ่าย ก็ถูกปิดแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดไว้ด้วยเช่นกัน

เจ้าของร้าน ชี้แจงให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดกัน โดยชายที่ก่อเหตุ มักจะแอบถ่ายแฟนสาว ขณะทำธุระ ที่เข้าห้องน้ำห้องข้างๆ เป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อเอามาแกล้งกัน ซึ่งชายที่ก่อเหตุ ก็เข้าใจผิด คิดว่าห้องข้างๆ เป็นแฟนสาว เมื่อยื่นโทรศัพท์มือถือเข้าไป ปรากฎว่าเห็นขาแล้ว รู้ว่าไม่ใช่แฟน จึงรีบชักมือกลับ และนั่งทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำต่อ โดยไม่รู้ว่าลูกค้าที่เข้าห้องข้างข้างเห็นว่ายื่นโทรศัพท์เข้าไป

ตนเองได้สอบถามว่าได้กดบันทึกหรือถ่ายไว้หรือไม่ ชายที่ก่อเหตุยืนยันว่าไม่ได้กดบันทึก จากนั้นจึงได้รีบไปขอโทษ และไกล่เกลี่ย โดยถามว่าจะให้คนก่อเหตุมาขอโทษเองไหม คู่กรณีบอกว่าไม่เป็นไร

ทั้งนี้ตนเองเข้าใจสภาพจิตใจของผู้เสียหายดี ว่ารู้สึกหวาดระแวงและไม่สบายใจ ตนเองยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการไกล่เกลี่ย หรือ หากผู้เสียหายจะเดินหน้าดำเนินคดีทางกฎหมายตนเองก็เข้าใจและพร้อมยอมรับ พร้อมอยากขอโทษผู้เสียหายอีกครั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุ ไม่เคยมีประวัติเสียหาย และไม่ได้มีการบันทึกคลิป หรือถ่ายภาพแน่นอน

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ บอกว่า เมื่อวานนี้ ผู้เสียหายได้ทักเข้ามาขอความช่วยเหลือ จึงตรวจสอบข้อมูล และพบว่ามีการไปแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ จะประสานกับทางร้อยเวรเจ้าของคดีในการพาน้องผู้เสียหายไปให้การ

ขณะที่การกระทำของผู้ก่อเหตุ แม้ว่าผู้เสียหายจะยังไม่ได้ทำธุระ หรือถอดเสื้อผ้าก็ตาม แต่การกระทำดังกล่าวมันเป็นการกระทำที่สำเร็จแล้ว แต่มันไม่บรรลุผล จึงเป็นข้อหาพยายามกระทำความผิด เพราะมีการตัดสินใจ และลงมือกระทำผิดแล้ว