สังคม
เปิดใจเเม่เด็กพาลูกตะลอนขายถั่วต้มกลางดึก โอดชีวิตไม่เหลือใครเเล้ว วอนสังคมเข้าใจ
โดย panisa_p
24 พ.ย. 2565
184 views
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต๊อกได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ขณะชายคนหนึ่งกำลังมีปากเสียงกับผู้หญิงที่พาลูกมาปล่อยให้เดินเร่ขายถั่วอยู่บริเวณปากซอยถนนราษฎร์ยิน ซอย 7/1 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นย่านร้านอาหารและสถานบันเทิง
เนื่องจากชาวบ้านสงสารเด็กคนนี้ที่ต้องมาเดินเร่ขายถั่วดึกๆดื่นๆแทบทุกคืน จึงทนดูไม่ได้ และเข้าสอบถามผู้หญิงคนนี้ว่า เป็นแม่ของเด็กหรือเปล่า ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ตอบแบบมีอารมณ์ว่า เป็นแม่จริงๆ และที่ต้องพาลูกมาเดินขายถั่วแบบนี้ เพราะ เด็กไม่มีพ่อ จนการเกิดโต้เถียงกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย บางช่วงแม่พยายามขับรถออกไป แต่ชาวบ้านก็อุ้มเด็กลงมา และถึงขึ้นยื้อเด็กกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ 4 ทุ่ม คืนวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันที่ 24 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับแม่ของเด็กที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว โดยอาศัยอยู่ภายใน ซ.แจ่มแจ้ง ต.ลวนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทราบชื่อ นางศศิมาภรณ์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และมีลูก 2 คน คือ น้องเอ อายุ 3 ปี 3 เดือน และ น้องบี อายุ 1 ปี 3 เดือน
นางศศิมาภรณ์ เปิดเผยว่า ในคืนนั้นตนขับรถพาลูกทั้งคู่ไปขายขนม ขายของกินตามปกติ แต่ปรากฏว่า ลูกงอแงจะกินเฟรนช์ฟรายส์ชีส แต่ร้านที่ซื้อประจำอยู่ห่างออกไปอีกเล็กน้อย จึงบอกให้ลูกช่วยขายของก่อน และค่อยแวะซื้อขากลับบ้าน และตนเมื่อเห็นว่า ลูกออยากกินอะไร ก็พยายามซื้อหาให้กินอยู่แล้ว และตอนนั้นตนก็เห็นลูกค้านั่งอยู่ที่หน้าร้านใกล้กับที่เกิดเหตุ 2 โต๊ะ จึงบอกให้ลูกเดินลงจากรถไปขายขนมตรงนั้นก่อน แล้วขากลับจะได้แวะไปซื้อเฟรนช์ฟรายส์กลับบ้าน
โดยเมื่อลูกชายคนโตเดินลงจากรถแล้วเอาของไปขาย และขากลับมีผู้ชายคนหนึ่งรัยกให้ลูกกลับมาก่อน แต่ลูกไม่กลับ และเริ่มกลัว รวมทั้งมีคนมองเยอะ จึงร้องไห้ออกมา ซึ่งที่ลูกร้องไห้ไม่ใช่เพราะว่า ตนไล่กลับให้ไปขายของอีกรอบแบบที่ปรากฏในข่าวบางสำนัก
และจากนั้นตนก็ได้เรียกให้ลูกกลับมาขึ้นรถ แต่เด็กไม่ยอมเดินกลับมา และยืนยึกยื้อ ส่วนหนึ่งเพราะ เด็กเวลาอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ ก็มักจะทำตัวงอแงแบบนี้ ตนจึงโมโห และพูดจาแบบรุนแรงออกไปกับลูก ซึ่งตนยอมรับ และบางคำก็เป็นถ่อนคำรุนแรง เช่น ถ้าไม่ขึ้นรถจะตีให้ตาย ซึ่งแค่พูด แต่ไม่ได้หวังจะทำจริงๆ แค่อยากให้ลูกรีบขึ้นรถกลับบ้านเท่านั้น จากนั้นลูกค้าและคนที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้นก็พากันเดินเข้ามา และมีการโต้เถียง และฉุดกระชากกันขึ้นตามที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว
นางศศิมาภรณ์ กล่าวด้วยว่า ปกติจะตระเวนขายของกิน ผลไม้ และถั่วต้ม โดยปกติตนกับลูกก็จะเดินไปขายด้วยกัน แต่ถ้าหากลูกคนเล็กร้องหรืองอแง ตนก็จะให้ลูกคนโตเดินไปขาย แต่เดินแค่ใกล้ๆ และขายแค่ถั่วต้มเท่านั้น นอกจากนี้ตนยังประสบอุบัติเหตุรถชนเจ็บขาต้องหยุดพักไปประมาณ 20 วัน และเพิ่งกลับมาตระเวนขายของได้ราววันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา
และหลังจากที่มีกระแสโซเชียลเรื่องนี้ถาโถมเข้ามา ตนรู้สึกเครียดมาก แต่ละช่องทาง แต่ละคอมเมนต์ เหมือนกับรุมประณาม รุมด่าตนทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงคลิปที่ถูกแชร์ออกไปก็มาจากมุมมองของเจ้าของคลิปแค่เท่านั้น และบางอย่างที่เป็นเหตุเป็นผลก็ไม่ได้ปรากฏอยู่ในคลิป และตนก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย
เเม่ของเด็กกล่าวด้วยว่า วานนี้หลังเรื่องราวของตนปรากฏเป็นข่าวดังก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนเลย ซึ่งตอนนี้ทำมาหากินลำบาก ของก็ขายไม่ค่อยจะได้ ไม่มีเงินใช้จ่าย และตนก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เพราะ ที่มีอยู่ทั้งพ่อและแฟนก็ได้เสียชีวิตกันไปหมดแล้ว โดยพ่อเพิ่งเสียไปเมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ตนจึงต้องเลี้ยงดูลูกอยู่เพียงลำพังคนเดียว โดยไม่ได้ขอรบกวนอะไรจากใครเลย
และเมื่อจะต้องออกไปทำมาหากินตระเวนขายของ ก็จำเป็นที่จะต้องพาลูกทั้ง 2 คน ติดรถจักรยานยนต์ไปด้วย เพราะ ไม่มีใครช่วยดู และเด็กยังเล็กปล่อนทิ้งให้อยู่บ้านเพียงลำพังไม่ได้ จึงอยากอธิบาย และวอนให้สังคมเข้าใจตนด้วย โดยตนต้องทำงานและต้องเลี้ยงลูกไปด้วย บางครั้งตอนที่พากันเดินไปขายของ ก็โดนลูกค้าบางคนต่อว่าอยู่เป็นประจำว่า เอาลูกมาหากิน และตนก็ได้แต่ตอบพวกเค้าไปว่า ตนไม่เหลือใคร ก็ต้องเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว
ทั้งนี้ยังทราบว่า ทาง พมจ.สงขลา ได้ติดต่อเข้ามา เพื่อสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ของครอบครัวนี้ในเบื้องต้นแล้ว โดยจะหาแนวทางที่พอจะให้การช่วยเหลือ รวมทั้งอาชีพที่จะสามารถทำให้แม่สามารถเลี้ยงดูลูกไปด้วยได้ ซึ่งจะมีการนัดหมายเข้าพบอีกครั้ง
แท็กที่เกี่ยวข้อง พาลูกขายถั่ว ,ตะลอนขายถั่ว ,แม่เปิดใจ ,วอนสังคมเข้าใจ