สังคม

สุดแสบ! 2 แม่บ้านโรงแรมย่องเงียบเข้าห้องลูกค้า ขโมยทรัพย์สินนับแสนบาท

โดย panisa_p

15 พ.ย. 2565

395 views

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย

1. นางอรัญญา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดพัทยาที่ 1/2561 ลงวันที่ 9 มกราคม 2561 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานโดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ไม่มาศาลตามกำหนดนัด จับตัวมาเพื่อดำเนินคดี” ​สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ม.7 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565  เวลาประมาณ 16.00 น.  


2. นางสาวพรัตชลี (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดพัทยาที่ 420/2560 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยร่วมกันกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป” ​สถานที่จับกุม บริเวณห้องพักแห่งหนึ่ง ถ.ถนนเทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุ มีการลักทรัพย์ของผู้มาพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ไป เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเครื่องเลี่ยมกรอบทองคำ 1 องค์ และเงินสดจำนวนหนึ่ง


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า บุคคลที่ก่อเหตุเป็นพนักงานทำความสะอาดภายในโรงแรม ได้อาศัยจังหวะผู้มาพักลงไปรับประทานอาหารเช้า จึงใช้คีย์การ์ดเปิดห้อง เข้าไปก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นางอรัญญาและนางสาวพรัตชลี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับทั้งสอง เพื่อดำเนินคดี


เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบสืบสวนทราบว่า นางอรัญญาและนางสาวพรัตชลี ผู้ต้องหาทั้งสอง หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำกำลังลงพื้นที่ทำการสืบสวนตรวจสอบกระทั่งสามารถทำการจับกุมตัว นางอรัญญา บริเวณหน้าบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ม.7 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นนำตัวมาทำบันทึกจับกุม แล้วนำตัวผู้ต้องหาส่ง ศาลจังหวัดพัทยา และนางสาวพรัตชลีได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ


ซึ่งผู้ต้องหาแจ้งว่า ได้นำสร้อยคอทองคำดังกล่าวไปขาย ได้เงินประมาณ 60,000 กว่าบาท และเก็บพระเครื่องเลี่ยมกรอบทองคำห้อยติดตัวไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบและได้ติดต่อไปยังผู้เสียหายเพื่อเข้ามาดูทรัพย์สินของตนที่ถูกลักทรัพย์ไป


เมื่อผู้เสียหายมาถึง ยืนยันได้ว่าพระเครื่องเลี่ยมกรอบทองคำองค์ดังกล่าว เป็นพระองค์เดียวกันกับที่ตนถูกลักทรัพย์ไปเมื่อเดือนกันยายน  2560 และสามารถจดจำตำหนิของพระองค์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาบันทึกจับกุมแล้วนำตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

คุณอาจสนใจ