ชาวแม่สายเดือดร้อนหนัก กลิ่นเหม็นลอยคละคลุ้ง พัดมาจากฝั่งเมียนมา พร้อมลมหนาว

ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เดือดร้อนหนัก หลังทนสูดกลิ่นเหม็นลอยคละคลุ้งในช่วงกลางคืน เทศบาลแม่สายมิตรภาพเร่งตรวจสอบกลิ่น พบว่าถูกพัดโชยมากับลมหนาว ที่พัดมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ สาธารณสุขแม่สายเร่งประสานหน่วยเหนือ ขอจัดส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์กลิ่น เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อผู้สูงวัยและเด็ก

เวลา 20.54 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 จากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงนี้ ทำให้พื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีอากาศเย็นในตอนเช้า แต่ด้วยมีการเผาอย่างต่อเนื่องในฝั่งจังหวัดประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับที่ตั้งของอำเภอแม่สาย อยู่ใต้ลม กลุ่มควันดังกล่าว ถูกสะสมปกคลุมอยู่ในพื้นที่ จนยอดดอยสูงที่เคยมองเห็นด้วยตาเปล่าเป็นสีเขียวในช่วงฤดูฝนก่อนหน้านั้น ปัจจุบันมองเห็นเป็นสีฟ้าหรือเทา จากความหนาแน่นของกลุ่มควัน

ทำให้ในช่วงหัวค่ำถึงช่วงเช้า ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในเขตพื้นที่ ตำบลแม่สาย และตำบลเกาะช้าง ต้องทนสูดดมกลิ่นเหม็นค่อนข้างรุนแรง ชวนคลื่นไส้ และวิงเวียนศีรษะ ขณะเข้าหลับนอน ชาวบ้านบางคนต้องปิดประตูหน้าต่าง หรือสวมหน้ากากอนามัยขณะนอนหลับ

ด้านนางสาวอุบล ใจวรรณะ นายกเทศบาลแม่สายมิตรภาพ ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้ประสานงานร่วมกับ ปกครองอำเภอแม่สาย, สาธารณสุขอำเภอแม่สาย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขของเทศบาล ร่วมตรวจพิสูจน์กลิ่นเหม็นดังกล่าวในขั้นต้น บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทราบว่า กลิ่นเหม็น ถูกพัดโชยมากับลมหนาว ที่พัดมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนแนวทางการแก้ไข เบื้องต้น ชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ได้รวบรวมรายชื่อทำเป็นหนังสือแจ้งมายัง เทศบาลแม่สายมิตรภาพ ผ่านอำเภอแม่สาย เพื่อส่งให้กับหน่วยประสานชายแดนพื้นที่ 1 อำเภอแม่สาย แจ้งให้กับฝ่ายเมียนมา ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย เร่งประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เพื่อประสานศูนย์อนามัยเขต 1 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบกลิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบกลิ่นเหม็นดังกล่าว เพื่อสรุปเป็นทางการถึงประเภทของกลิ่น ในการใช้ประกอบการแจ้งหนังสือให้กับฝ่ายเมียนมาได้รับทราบ