ศบค. ยังไม่คุยเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ศบค. ยังไม่คุยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างขอดูสถานการณ์อีกสักระยะ  ชี้ยังมี เวลาถึง ก.ย. 


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุมศบค. โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นจนถึงขณะนี้ รวมถึงขณะนี้ผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นจาก W22 จำนวน 195 ราย มาใน W22 เพิ่มเป็น 236 ราย ซึ่งจะเห็นว่าส่วนใหญ่กลุ่ม 608 ไม่ได้รับวัคซีน ปัจจัยสำคัญที่ทั่วโลกยอมรับคือการฉีดวัคซีน โดยขอความร่วมมือพาผู้สูงอายุฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเข็มกระตุ้นที่ช่วยได้เยอะ

สถานการณ์ยายังคงมีเพียงพอ และแนวโน้มการใช้ยาหลังจากนี้ต้องใช้อย่างมีเหตุผล ซึ่งขณะนี้แนวโน้มการใช้ยาลดลง ส่วนการเตรียมความพร้อมด้านยา โดย อย.พยายามเร่งรัดในการจดทะเบียน องค์การเภสัชกรรมเตรียมสำรองยา มีกองทุนเตรียมความพร้อมบริหารจัดการค่ายาและจะพยายามให้มีการกระจายยาไปยังคลีนิคเวชกรรมให้ได้ ซึ่งในเดือน ก.ย.นี้หน่วยบริการนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีการจัดซื้อยาให้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ และร้านยาสามารถจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้ตามใบสั่งแพทย์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ส่วนหน่วยบริการสาธารณสุขจัดซื้อยาได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อให้คล่องตัวมากขึ้น

ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำกรอบนโยบายแนวทางปฏิบัติและห้วงเวลาในการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู้ภาวะหลังพ้นการระบาดใหญ่ หรือ Post-Pandemic เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 ซึ่งไทมไลน์กรอบเวลา ส.ค.-ก.ย. ยังใช้ระบบตามที่เราทำอยู่ ในเดือนต.ค. ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้มีการเสนอให้ประกาศให้เป็นโรคระบาดเฉพาะที่ ซึ่งบทบาทของศบค.จะลดลง และให้EOC กระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นคนนำไปสู่การทำงาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยว่าเราจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ เพราะยังมีการประเมินกันต่อ และยังมีเวลาถึงก.ย. จึงไม่ได้มีความเร่งด่วนจำเป็นใดๆในการพูด เพราะมีประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปถึงเดือนก.ย.อยู่แล้ว โดยที่ประชุมรับทราบและตั้งข้อสังเกต รอดูสถานการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยที่ประชุมมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกทม.ได้ทำแผนการเปลี่ยนผ่านนี้ให้สอดคล้องระหว่างที่ยังคงมีศบค.อยู่