สังคม

บก.ทล.แจงปมทิ้งศพคาเก๋งนาน 12 ชม. รับมองไม่เห็น นึกว่าพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.แล้ว

โดย panisa_p

10 ส.ค. 2565

582 views

กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล.,ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง


กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ กลางถนนมอเตอร์สาย 7 ฝั่งขาเข้าพัทยา ช่วง กม.105+700 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 และได้มีการประสานเก็บกู้ซากรถออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ ปรากฏต่อมาว่า พบศพติดอยู่ในซากรถคันดังกล่าวด้วยนั้น


กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุดังกล่าวจากศูนย์บริหารจัดการจราจร (CCB) พัทยา ว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.45 น. จากนั้นจึงได้ประสานศูนย์วิทยุกู้ภัยแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวน รวม 9 นายให้รีบเข้าให้การช่วยเหลือ อำนวยการจราจรจุดเกิดเหตุ


โดยเจ้าหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุในเวลา 07.54 น. ได้ร่วมกันตรวจสภาพที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งหมด ยืนยันว่า ไม่พบผู้บาดเจ็บ ญาติ หรือผู้เสียชีวิต จึงได้เคลื่อนย้ายรถไปเก็บไว้ที่หน่วยสอบสวนเขาเขียว เมื่อเวลา 09.28 น.


จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ติดตามพร้อมสอบถามไปยังโรงพยาบาล หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ และสอบถามทางญาติ ทราบว่ายังไม่พบตัวผู้ขับขี่ จึงได้เข้าไปตรวจสอบที่รถอีกครั้ง เมื่อเวลา 18.00 น. พบมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถ หลังจากนั้นจึงได้แจ้งให้ญาติทราบและทำการชันสูตรพลิกศพ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เมื่อได้รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมการจราจร (CCB) กรณีเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง รถวิทยุตรวจเขต รถยก รถกู้ชีพ จะเข้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสภาพสถานที่เกิดเหตุ มีการกีดขวางการจราจรหรือไม่ พร้อมตรวจสอบผู้ประสบเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิต ทรัพย์สินเสียหาย


โดยกรณีอุบัติเหตุดังกล่าว เมื่อได้รับแจ้งเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบเข้าตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าวแล้วไม่พบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในตัวรถ เชื่อว่า มีพลเมืองดีนำผู้บาดเจ็บหรือผู้ขับขี่ส่งโรงพยาบาล จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายรถมาเก็บรักษาไว้ เพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุต่อไป


ระหว่างนั้นพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบผู้ขับขี่ จึงได้หาข้อมูลติดต่อญาติผู้ขับขี่ทางโทรศัพท์แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ไปตรวจสอบเอกสารภายในรถ พบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่บริเวณใต้พวงมาลัยรถ จึงได้แจ้งแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และอยู่ในระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป


สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว กองบังคับการตำรวจทางหลวง ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง และจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยละเอียดเพื่อป้องกันและแก้ไขมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป


ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง มุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

คุณอาจสนใจ