สังคม

หย่าขาดสามีเมายาหยอกลูกแรง ลูกสาววัย 24 วัน ปลอดภัยดี เตรียมตัวกลับไปอยู่ลาว

โดย chutikan_o

8 ส.ค. 2565

1.3K views

คืบหน้าพ่อเมายาหยอกลูกวัย 24 วัน รุนแรง นายอำเภออุทุมพรพิสัยร่วมกับ ตม.พมจ.ซองดูฮี เข้าช่วยเหลือ ผลตรวจร่างกายแม่ลูกปกติดี เตรียมจัดหาเอกสารให้ลูกสาวกลับไป สปป.ลาว แม่ชาวลาวซึ้งน้ำใจคนไทยช่วยพากลับประเทศขณะที่ ตร.เตรียมส่งตัวพ่อเมายาไปฟ้องศาลพิจารณาโทษ




จากกรณีที่ นายณัฐพล บัวหุ่ง อายุ 29 ปี ได้มีอาการเมายาบ้าอย่างหนักและได้หยอกน้องมาเฟีย ลูกสาววัยเพียง 24 วันอย่างรุนแรง ทำให้แม่ซึ่งเป็นคนลาวทนไม่ได้ เกรงว่าลูกสาวจะมีอันตราย เนื่องจากสามีมีอาการเมายาบ้า จึงได้ถ่ายภาพและโพสต์ลงสื่อโซเชียล ซึ่งต่อมากำนัน ต.บังหุ่ง และผู้ใหญ่บ้านบัวหุ่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราษีไศล เข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยทำการจับกุมนายณัฐพล ไปดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ขณะที่นายศุกล เครือเสน อายุ 26 ปี หรือ ซองดูฮี ศิลปินชื่อดังผู้ใจบุญ และคณะได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือมารับตัว นางวันนา ตะมอง อายุ 26 ปี ภรรยาชาวลาวพร้อมน้องมาเฟีย เด็กหญิงอายุ 24 วัน ไปดูแลเพื่อช่วยเหลือเตรียมส่งตัวกลับไป สปป.ลาว นั้น



ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (8 ส.ค. 65) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่สำนักงาน ซองดูฮี บ้านสำโรง ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ ปัญญาคง หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ (พมจ.) น.ส.จิระพรรณ มากนวล นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ และ น.ส.เอลาวัน วรรณวงษ์ นักจิตวิทยา สำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาพบกับ นางวันนา ตะมอง แม่ชาวลาว และน้องมาเฟีย ลูกสาวอายุ 24 วัน และผู้จัดการส่วนตัวของ ซองดูฮี เพื่อหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือ นางวันนาและบุตรสาวที่ยืนยันว่า ขอหย่าขาดจากสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส โดยได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ราษีไศล ไว้แล้วเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2565 ซึ่งทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้มารับตัวนางวันนา กับบุตรสาว เพื่อให้ไปพักที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ โดยจะได้มีการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมกับจะเดินทางไปส่ง นางวันนากับบุตรสาวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย อีกด้วย



ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.อาทิพย์ ซึมดอน ผกก.ตม.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.(ญ) ชัญญา พรหมวารี รอง ผกก.ตม.ศรีสะเกษ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือแนะนำรวมทั้งตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานของนางวันนา เนื่องจากเป็นคนต่างด้าว พบว่า หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของนางวันนา ยังไม่หมดอายุแต่อย่างใด และมีหนังสืออนุญาตทำงานในประเทศไทยถูกต้อง พร้อมทั้งจะได้อำนวยความสะดวกในการจัดเตรียมเอกสารของน้องมาเฟียลูกสาวของนางวันนา ไปจัดทำหนังสือเดินทางที่ จ.อุบลราชธานี รวมทั้งจะได้ประสานงานกับด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคายในการอำนวยความสะดวกให้กับ 2 แม่ลูกในการที่จะเดินทางกลับไปยังเมืองเฟือง กรุงเวียงจันทร์ สปป.ลาว ตามความประสงค์ของนางวันนาต่อไป



นางวันนา ตะมอง แม่ชาวลาว กล่าวว่า การที่ได้รับความเมตตาจากซองดูฮี นายอำเภออุทุมพรพิสัย ตม.และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาให้การช่วยเหลือเขากับลูกสาวในครั้งนี้ ต้องขอกราบขอบพระคุณมากและรู้สึกสบายใจมากที่คนไทยใจดีมาก ส่วนถ้าอดีตสามีจะมาง้อขอคืนดีด้วยนั้น คงจะไม่กลับไปอยู่ด้วยอีกแล้ว เพราะว่า หากกลับไปอยู่ด้วย เหตุการณ์ต้องเลวร้ายกว่าเดิมอีก ขอกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่ สปป.ลาวเช่นเดิมดีกว่า โดยจะตั้งใจเลี้ยงลูกสาวให้ดีที่สุด



นายอำเภออุทุมพรพิสัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางอำเภออุทุมพรพิสัยได้ประสานกับ สภ.ราษีไศลและอำเภอราษีไศลในการให้ความช่วยเหลือนางวันนาและบุตรสาว ทั้งนี้ทาง ซองดูฮีได้นำนางวันนาแม่ชาวลาวและบุตรสาวอายุ 24 วันไปตรวจร่างกายที่ รพ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก ผอ.รพ.อุทุมพรพิสัยตรวจร่างกายให้ ปรากฏว่าสภาพร่างกายปกติดีไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดและในส่วนของ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ ก็ได้ช่วยเหลือในเรื่องของการตรวจสอบพาสปอร์ตของนางวันนา และการเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย ก็พบว่านางวันนามีอายุพาสปอร์ตถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 และสามารถที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้ แต่ว่านางวันนามีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ ไปอยู่ที่ ภูมิลำเนาเดิมคือที่เมืองเฟือง เวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งทาง อ.อุทุมพรพิสัยก็ได้เตรียมการในด้านของการจัดเตรียมเอกสารทำหนังสือเดินทางให้กับน้องมาเฟียซึ่งเป็นบุตรสาวของนางวันนา ซึ่งน้องมาเฟียเป็นคนไทยจะต้องทำเป็นหนังสือเดินทางไทย ซึ่งตนได้ประสานกับทาง ผกก.สภ.ราษีไศลซึ่งกำลังดำเนินคดีกับ นายณัฐพล บัวหุ่ง ซึ่งเป็นบิดาของน้องมาเฟียเพื่อให้ไปให้ความยินยอมของการที่จะให้บุตรสาวทำหนังสือเดินทางและออกจากประเทศไทยไปอยู่ที่ประเทศ สปป.ลาว ได้



นายอำเภออุทุมพรพิสัย กล่าวอีกว่า ซึ่งการดำเนินการทำหนังสือยินยอมก็สามารถที่จะไปแจ้งยังที่ว่าการ อ.ราษีไศล ซึ่งผู้ปกครองท้องที่คือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทางปลัดอำเภอจะต้องลงนามเป็นพยานและนำเอกสารนี้ไปยื่นต่อสำนักงานหนังสือเดินทาง จ.อุบลราชธานี เพื่อประกอบการขอทำหนังสือเดินทางประกอบการข้ามแดนที่ จ.หนองคายต่อไป ซึ่งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ ได้ช่วยดำเนินการให้ในส่วนนี้ ส่วนการที่มีข่าวว่านายณัฐพล บัวหุ่ง บิดาของน้องมาเฟียจะไม่ยินยอมให้น้องมาเฟียเดินทางไปอยู่ที่ สปป.ลาวกับมารดานั้น เรื่องนี้ ผกก.สภ.ราษีไศลรวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนายณัฐพลแล้ว ซึ่งทราบว่านายณัฐพลก็ยินดีที่จะอำนวยความสะดวกและให้นำน้องมาเฟียไปอยู่กับมารดาที่ สปป.ลาวได้ หากทำหนังสือเดินทางเสร็จก็จะออกเดินทางทันที ซึ่งนางวันนาได้แจ้งให้ทางญาติพี่น้องที่อยู่ใน สปป.ลาวได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว ต้องขอขอบคุณทาง อ.ราษีไศล สภ.ราษีไศล ตม.จว.ศรีสะเกษ รพ.อุทุมพรพิสัย รพ.ราษีไศลและทางน้องยูทูปเบอร์ ซองดูฮี และพี่น้องจิตอาสาทุกคนที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือนางวันนา กับบุตรสาวในครั้งนี้



ทางด้าน พ.ต.ท.มงคล ละเหลา สว.สอบสวน สภ.ราษีไศล เจ้าของคดีนี้ กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายณัฐพล บัวหุ่ง ในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซึ่งนายณัฐพล ได้ให้การรับสารภาพ จะนำตัวนายณัฐพล ไปส่งฟ้องที่ศาล จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้ศาลพิจารณาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ