สังคม
กรมควบคุมโรคเตือน ปชช.อย่าตระหนก เทียบ 'ฝีดาษลิง' ติดยากกว่าเอดส์
โดย panisa_p
23 ก.ค. 2565
589 views
ความคืบหน้ากรณี พบชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ติดเชื้อฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง แล้วหลบหนีไม่เข้ารักษา วันนี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และแพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผอ สำนักสื่อสารและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพแถลงคืบหน้าว่า จากสถานการณ์โลก ขณะนี้องค์การอนามัยโลกยังไม่ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศ เพราะลักษณะของโรคไม่ได้รุนแรง การติดต่อก็ไม่ได้รุนแรง
กรณีชายไนจีเรียที่พบเชื้อ ไม่ให้ความร่วมมือ และมีพฤติกรรมหลบหนี หลบเลี่ยงพบเจ้าหน้าที่ จากพฤติกรรม เชื่อว่าไม่ใช่นักท่องเที่ยวธรรมดา และน่าจะมีคนช่วยเหลือในประเทศไทย ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดชายรายนี้ สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า จากการคัดกรอง พบว่าชายรายนี้ไปใช้บริการสถานบันเทิง 2 แห่ง คัดกรองผู้มีความเสี่ยงในสถานบันเทิง 142 ราย มีอาการ 6 ราย ทั้ง 6 รายไม่ได้มีการสัมผัสชายคนดังกล่าว และจากการตรวจเชื้อ 5 รายไม่พบเชื้อ อีก 1 ราย เดินทางไปต่างประเทศแล้ว
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้สั่งการ ให้ ทางจังหวัดภูเก็ต ค้นหาเชิงรุก เฝ้าระวังผู้ที่มีอาการไข้ มีผื่น และตุ่ม ตุ่มแดงที่ผิวหนัง อวัยวะเพศ และผู้ที่เข้ารับการรักษาโรคทางเพศสัมพันธ์ โดยให้ไปตรวจสอบ ประวัติย้อนหลังกลับไป ตั้งแต่ 1 มิถุนายน พบผู้มีอาการต้องสงสัย 183 ราย ซึ่งขณะนี้ทีมตรวจสอบเชิงรุก อยู่ระหว่างการหาข้อมูลและซักถามประวัติ
ส่วนผู้สัมผัส จำนวน 33 ราย แยกเป็น ผู้สัมผัสใกล้ชิด 19 ราย ไม่พบเชื้อ แต่ให้สังเกตอาการและเฝ้าระวัง ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มี 14 รายสังเกตอาการ โรคนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่ออันตราย แต่เป็นโรคที่เฝ้าระวัง กรณีที่พบว่า ผู้ป่วยรายนี้อยู่ในประเทศไทยมานาน ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีการรับเชื้อจากในไทย
อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้ซักประวัติผู้ป่วยที่ชัดเจน และข้อมูลที่พบก็เป็นการรายงานการเดินทางเข้าออกประเทศ ซึ่งยังมีความสับสนอยู่ ทั้งมีการเดินทางมาตั้งแต่ปี 64 และมีข้อมูลว่าชายรายนี้เข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง จึงตอบไม่ได้ว่า ที่พบเชื้อครั้งนี้เกิดขึ้นจากการติดเชื้อในประเทศไทยหรือไม่
โดยเชื้อนี้ หากได้รับเชื้อแล้ว จะมีอาการไข้ ผื่น และตุ่มแดง และสังเกตชัดเจนคือ ผื่นและตุ่มจะขึ้นตามตัวและอวัยวะเพศ โดยจะฟักเชื้อ 21 วัน ซึ่งสามารถหายเองได้ และไม่รุนแรง หากอาการตุ่มและผื่นยุบ ถือว่าหาย และไม่เป็นอันตราย โดยปกติก็จะใช้เวลา 14 วันก็หายเองได้ หากจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับอาการเป็นโรคสุก-ใส
ส่วนการติดเชื้อนั้นต้องบอกว่า โรคเอดส์ยังติดง่ายกว่าเชื้อฝีดาษวานร เพราะเป็นโรคที่ส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ หากใช้ชีวิตแบบปกติ และดูแลป้องกันตัวเอง ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับคนอื่นและไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ก็ไม่ต้องกังวล
ส่วนกรณีที่พบฝีดาษในเด็กเล็กที่ต่างประเทศ ตามข้อมูลที่พบการระบาดของโรคนี้ มีความรุนแรงค่อยข้างน้อย ผู้เสียชีวิตมีไม่มาก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งกลุ่มเสี่ยงสูง คือ ชายวัยกลางคนและวัยรุ่น แต่หากพบผู้ติดเชื้อในครอบครัว ก็ให้ผู้สูงอายุและเด็กหลีกการสัมผัสผู้ป่วย
ซึ่งข้อมูลของกรมอนามัยโลกยังไม่ประกาศโรคนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ไม่ได้เป็นโรคติดต่ออันตราย มนประเทศไทยก็เป็นการเฝ้าระวัง และหากประชาชนที่มีอาการ มีผื่นและตุ่มแดง ขึ้นตามตัวและอวัยวะเพศ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจเชื้อ และเข้าสู่การรักษา ทั้งนี้กรมควบคุมโรค ยังแจ้งเตือนทุกจังหวัด คลีนิคและรพ.ให้เฝ้าระวังและตรวจสอบประวัติตัดกรอง และหากพบมีอาการค้องสงสัยหรือเข้าข่าย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
แท็กที่เกี่ยวข้อง ฝีดาษลิง ,โรคเอดส์ ,กรมควบคุมโรค ,อย่าตระหนก