ไม่ทน! ชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ผอ. โรงเรียน เรียกเก็บเงินเพิ่ม พฤติกรรมน่าสงสัย แฉย้ายมา 3 โรงเรียนแล้ว

วันนี้ (1 มิ.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านงิ้วมีชัย ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีชาวบ้านในหมู่บ้านเดินทางมาชุมนุมพร้อมถือป้ายประท้วงไล่ ผอ.ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยชาวบ้านอัดอั้นตันใจ พร้อมเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้ทางสำนักงานเขตฯ ย้ายผอ.โรงเรียนออกจากโรงเรียน เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ ผอ.ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่นี่ ในเดือนพฤศจิกายน 64 โรงเรียนมีปัญหาตามมามากมาย

เช่น สร้างความแตกแยกในโรงเรียน จนครูขอย้าย 5 คน ย้ายออกไปแล้ว 2 คน นอกจากนี้ยังมีการเก็บเงินเสื้อกีฬานักเรียนแต่ยังไม่ได้รับเสื้อ เก็บเงินค่าอาหารกลางวันนักเรียนชั้น ม.1 - ม.3 คนละ 20 บาทต่อวัน เก็บเงินเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเด็ก ป.1 เทอมละ 1,000 บาท และห้ามชาวบ้านเข้าไปในโรงเรียนในวันหยุดราชการ เท่าที่ทราบมา ผอ. คนนี้ย้ายมาแล้ว 3 โรงเรียน เพราะโดนชาวบ้านไล่

ส่วนด.ช.เอ นักเรียนชั้น ม.2 บอกว่า ตนไม่เอาแล้วผอ.ท่านนี้ ตั้งแต่เข้ามาสร้างความแตกแยกและเรียกเก็บเงินนักเรียนชั้นมัธยมเพิ่มคนละ 20 บาทต่อคน โดยมีนักเรียนม.1 - ม.3 60 คน ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยเก็บ เมื่อก่อนตนเรียนประถมที่โรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง ชาวบ้านก็ไล่ พอตนเองมาเรียนมัธยมที่นี่ก็เจอไล่อีก หากผอ.คนนี้อยู่ ตนเองก็จะย้ายโรงเรียน อยากให้ย้ายผอ.ไปที่อื่น

ขณะที่ครูประจำห้อง IEP ห้องสอนภาษาอังกฤษแบบเข้ม โรงเรียนบ้านงิ้วมีชัย บอกว่า ส่วนประเด็นที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าโรงเรียนเก็บเงินจากผู้ปกครองชั้น ป.1 คนละ 1,000 บาทเป็นค่าเรียนเพิ่มนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นนโยบายของสำนักงานเขตฯ ที่ดูความพร้อมของโรงเรียนว่าโรงเรียนไหนพร้อมเปิดเรียน IEP ได้

โรงเรียนเราได้รับคัดเลือก 1 ใน 24 แห่งจากโรงเรียน 200 กว่าแห่ง ได้มีการประชุมกับผู้ปกครองแล้ว โดยเงินที่เรียกเก็บจะนำไปซื้ออุปกรณ์การเรียนรวมทั้งหนังสือภาษาอังกฤษที่มีราคาค่อนข้างแพง ทั้งนี้การเรียนภาษาอังกฤษแบบเข้มจะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เยาว์วัย

ล่าสุดนายประสิทธิ์ ไชยวงษ์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 จ.อุดธานี (สพป.) อุดรธานี เขต 3 ได้มีคำสั่งย้าย ผอ.ของโรงเรียนนี้ ไปประจำที่ สพป.อุดรธานี เขต 3 ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.65 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน

ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า ผอ.คนนี้ถูกชาวบ้านขับไล่มาแล้ว 3 โรงเรียน เนื่องจากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณค่าอาหารกลางวันของเด็กและอีกหลาย ๆ เรื่อง ต้องรอคณะกรรมการสอบสวนภายใน 15 วันถึงจะรู้ผลร้องเรียน หากมีความผิดจะมีการลงโทษทางวินัยแน่นอน