ชุมพรยังสาหัส! น้ำท่วมขังเดือดร้อนเกือบ 8,000 ครัวเรือน บางพื้นที่ขาดน้ำ-อาหารแล้วกว่า 2 วัน

เหตุอุทกภัยในจังหวัดชุมพรตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมาพบความเสียหายแล้วใน พื้นที่ 6 อำเภอ มีประชาขนได้รับผลกระทบเกือบ 8,000 ครัวเรือน แม้สถานการณ์บางพื้นที่จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ในหลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขัง ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ขาดน้ำและอาหารมานานกว่า 2 วันแล้ว



ฝนที่ตกหนักช่วงวันที่ 13-15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้เกิดอุกทกภัยในพื้นที่ 379 หมู่บ้าน 47 ตำบล 6 อำเภอของจังหวัดระนอง ได้แก่ อำเภอปะทิว เมืองชุมพร สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และละแม เบื้องต้นมีประชาชนได้รับผลกระทบ 7,701 ครัวเรือน กว่า 43,290 คน



ตอนนี้มีที่ตัวเมืองชุมพรที่สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติถนนสายชุมพร-สี่แยกปฐมพรทั้งฝั่งขาเข้าและออก น้ำแห้งแล้ว หลังแม่น้ำท่าตะเภาและคลองชุมพรรวมถึงน้ำระบายลงคลองนาคราช เริ่มลดระดับ ทำให้บริเวณสี่แยกปฐมพรทั้งสองฝั่งและหน้าค่ายตชด.41 น้ำแห้งสนิทแล้ว



ส่วนที่หมู่ที่ 2 ตำบลแหลมทราย อำเภอหลังสวน เบื้องต้นได้รับการรายงานจาก นายปัญญา อภิรัตนวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลแหลมทราย ว่ายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้าน หลังน้ำที่ท่วมขังทำให้ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรออกไปตลาดได้มา 2 วันแล้ว ขณะที่ผู้อยู่อาศัยบางส่วนเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อย่างเช่นที่บ้านหลังนี้มีผู้อยู่อาศัย 4 คน คือ นายธวัช จันทร์มณี อายุ 81 ปี นาง เพ็ญศรี จันทร์มณี อายุ 80 ปี และ นางสาวจันจิรา จันทร์มณี อายุ 51 ปี เป็นผู้ดูแล และยังมีผู้พิการอาศัยร่วมด้วย ซึ่งที่นี่ ขาดน้ำและอาหารมา 2 วันแล้ว



ส่วนที่ตำบลปากแพรก ตำบลสวี ตำบลนาโพธิ์ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำสวี และคลองสวีหนุ่ม พื้นที่บ้านเรือนพื้นที่เกษตรของประชาชนยังจมอยู่กับน้ำที่ท่วมขัง ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิและกู้ภัยต่างๆ จากภาคใต้พร้อมอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำเข้าพื้นที่อำเภอสวีวางแผนให้การช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งศูนย์อำนวยการอยู่ที่ว่าการอำเภอสวี



ล่าสุด จังหวัดชุมพร ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 14 นำข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม และถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่หมู่ 7 ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับ ประชาชนที่ประสบภัย และให้หน่วยทหารในแต่ละพื้นที่ จัดกำลังพล เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย สำรวจเส้นทางต่างๆ พร้อมนำรถ FTS และเรือยาง ทำการขนย้ายสิ่งของขึ้นไปที่สูง รวมทั้งอพยพผู้คนโดยเฉพาะเปราะบาง และสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย ในวันนี้ได้จัดข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม และถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้เป็นเบื้องต้นหลังจากที่ระดับน้ำลดลงในวันนี้ สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ขอให้เตรียมความพร้อม และหากมีการประกาศอพยพ ก็ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถประสานได้ที่ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ กองทัพภาคที่ 4 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 41 - 46 และกองพันประจำอำเภอทั้ง 46 กองพัน ในพื้นที่ภาคใต้ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง