สังคม

ตร.เร่งแกะรอยคลิปเสียงก่อนเกิดเหตุสังหาร 'สจ.โต้ง' หาบุคคลที่ 3 เผยเตรียมโอนคดีไปกองปราบฯ

โดย panwilai_c

14 ธ.ค. 2567

61 views

ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ทั้งกองปราบปราม และ ภาค2 ยังคงลงพื้นที่คลี่คลายคดี ยิง สจ.โต้ง ภายในบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการโอนสำนวนจากพื้นที่ มายังกองปราบปราม หลังจากภรรยาผู้เสียชีวิตมายื่นหนังสือให้มีการโอนสำนวนมายังส่วนกลาง โดยล่าสุดมีรายงานว่าน่าจะมีตำรวจอยู่ในบ้านนายสุนทร แต่จะอยู่ขณะเกิดเหตุหรือไม่ หรือออกจากบ้านมาก่อน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ



พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมทำหนังสือโอนย้ายสำนวนการคลี่คลายคดียิง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เสียชีวิต จากพื้นที่ มายังตำรวจกองปราบปราม หลังจาก ภรรยาของ สจโต้งได้มาร้องเรียนเพราะเป็นคดีร้ายแรง สะเทือนขวัญ โดยพล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าเบื้องต้นก็เข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากผู้ร่วมก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี โดยจะมีประชุมคดีอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามก็ลงพื้นที่ไปแล้ว



จากการตรวจสอบหาพยานหลักฐานของตำรวจคลี่คลายคดีคาดว่าขณะเกิดเหตุน่าจะมีคนอยู่ภายในบ้านมากกว่า 7 คน โดย 1 คนมีรายงานว่าเป็นตำรวจ แต่ออกจากราชการแล้ว แต่จะออกมาก่อนเสียงปืนดัง หรืออยู่ขณะเกิดเหตุยังต้องรอการตรวจสอบ



ขณะที่ สจ.โต้งเดินเข้าไปภายในบ้านสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเห็นว่ามีกลุ่มคนพร้อมอาวุธปืนอยู่ในบ้าน 6 คน อีกทั้งปกติ สจ.โต้ง จะเข้าไปภายในบ้านของนายสุนทร โดยไม่พกอาวุธเข้าไปในบ้าน และครั้งนี้ ก็ไม่ได้พกอาวุธเข้าไปเช่นกัน แต่มีพรรคพวกยืนรออยู่นอกบ้านหลายสิบคน โดยบางส่วนที่ยืนอยู่นอกบ้านเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ



และจากคลิปเสียง ที่มีปากเสียงกัน โดยมีเสียงแทรกขึ้นว่า ซึงคลิปเสียงนี้ คาดจะเป็นหลักฐานเชื่อว่า มีบุคคลมากกว่า 7 คนอยู่ในบ้าน และคนนี้น่าจะเป็นอดีตตำรวจ



จากการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ นายสุนทร และสจ.โต้ง มีความขัดแย้งกันมาระยะหนึ่งแล้ว และมาแตกหัก เรื่อง การลงสมัครรับเลือกตั้ง อบจ.จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่เชือว่าเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า



ทำให้ นายสุนทร และพวกรวม 7 คน จะถูกเพิ่มข้อกล่าวหาเป็น ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต



ขณะที่ พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีการเปิดเผยว่า คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตรวจยึดอาวุธปืนมาจากตำรวจ 4 นาย จำนวน 4ก ระบอก ที่ติดตามสจ.โต้งในวันเกิดเหตุ โดยมีการส่งมอบอาวุธปืนดังกล่าวให้ สพฐ.ตร.เพื่อดำเนินการตรวจเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่



วันนี้ ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี ได้มีการนัดสอบปากคำนายกฤษฎ์ เกษมพันธุ์หรือ รองอุ๊ รองนายกอบจ.ปราจีนบุรี ในประเด็นที่ปรากฏในคลิปและข้อมูลต่างๆในที่เกิดเหตุ ในฐานะพยาน นอกจากนี้ได้มีการนัดสอบปากคำ ดาบตำรวจศิลปชัย วงษ์นิกร หรือนายกตุ๋ย นายกอบต.บางเดชะ ที่มีการที่มีการถูกกล่าวอ้าง ในฐานะพยานในวันเกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และหลังจากฌาปนกิจศพผู้ตายแล้ว ตำรวจจะเรียกบุคคลใกล้ชิด ทั้ง ภรรยา ผู้ตาย , พี่ชาย และน้องชาย มาสอบ



ส่วนรถอัลพาร์ดที่ทางเจ้าที่ยึดมา เพื่อหาลายนิ้วมือแฝงว่าผู้ใช้รถคันดังกล่าวนั้นเป็นใครและมีการใช้รถไปที่ใดบ้าง นอกจากนี้ยังหาร่องรอยวิถีกระสุน เพื่อไล่ ไทม์ไลน์ว่ารถคันดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่



ส่วนอาวุธปืน พบทั้งหมด6 กระบอก ซึ่งตำรวจยึดไปตรวจสอบแล้ว ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ พบว่า มีเพียง 2 กระบอก เป็นปืน canik 9 มม. ซึ่งปืนกระบอกนี้เป็นของนายกอล์ฟ ส่วนอีก 1 กระบอกเป็นปืนลูกซองของนายสุนทร และอาวุธปืนอีก 4 กระบอกนั้น ณ ตอนนี้ตำรวจทราบตัวเจ้าของแล้ว แต่อยู่ในสำนวนคดี ซึ่งยืนยันได้ว่า อาวุธปืนทั้ง 4 กระบอกไม่ใช่อาวุธปืนที่ใช้สังหาร สจ.โต้ง ในส่วนประเด็นของพยานแวดล้อมในคดีนี้มีเป็นจำนวนมาก เมื่อขยายผลออกไปคดีนี้ยิ่งพบความเชื่อมโยงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด



ขณะที่นางกรกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า นายสุนทร พร้อมลูกน้อง 7 คน ฝากขังที่เรือนจังหวัดนครนายก เ มื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ แต่การควบคุมภายหลังจากรับตัวแล้ว จะนำตัวไว้เรือนจำใด เป็นเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และถ้าเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี จะต้องนำเรียนศาลก่อน โดยเรือนจำนครนายกเป็นเรือนจำสร้างใหม่ มีความมุ่นคงสูง ส่วนการรับตัวคืนแรก ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ และแยกแดนกักโรค 5 วัน โดยไม่ได้แยกกักตัวที่สถานพยาบาล โดยนายนายสุนทร ไม่ได้มีอาการเครียดแต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ

Related News