จับแก๊งคอลฯ ใช้ AI ตุ๋นเหยื่อโอนเงิน เสียหายร่วม 46 ล้าน พบเบื้องหลังเป็นจีนเทา

ตำรวจสอบสวนกลาง จับล่าม คนไทย ที่ทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเป็นผู้วางแผนใช้กลยุทธ์ในการหลอกเหยื่อ โดยใช้Ai เป็นชายหนุ่ม นักธุรกิจหน้าตาดี หลอกผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงสาวมีฐานะ ให้หลงรัก และโอนเงินร่วม 46 ล้านบาท สุดท้ายพบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้สั่งการเป็นจีนเทา




ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม นายยุทธชัย อายุ 26 ปี ได้ที่ จ.เชียงใหม่ โดยนายยุทธชัย ทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน มีหน้าที่คอยหาเหยื่อเป็นหญิงสาวฐานดีจากเฟสบุ๊คมารวมไว้หลายราย และส่งให้พนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างสัมพันธภาพ โดยใช้โปรไฟล์ปลอม เป็นหนุ่มนักธุรกิจ หน้าตาดีประสบผลสำเร็จ มีสคริปการพูดคุยให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่น หวังดี เมื่อตายใจก็ชวนลงทุน เพื่อจะได้มีอนาคตร่วมกัน เหยื่อสาวโอนไป ร่วม 46 ล้าน เมื่อหมดตัว ชายหนุ่มก็หายไป จนทราบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายนี้ยังนายชนาธิป อายุ 25ปี ทำหน้าที่ฟอกเงิน และกดเงิน ร่วม 78 ล้านบาท หาคนไปสแกนหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านหลายสิบคน ถูกตามจับมาได้ทั้งหมด นับ 20 ราย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่เลวร้าย เจ้าหน้าที่พยายามยึดทรัพย์คืนกลับเหยื่อให้ได้



การหลอกให้รักและลงทุน ยังเป็๋นกลยุทธ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีชื่อเหยื่อเป็นชายวัยเกษียณ และสาวที่มีเงินเก็บ ให้หลงคารม และโอนเงินมา และนำไปแปลงเป็นเหรียญคลิปโตร่วม 2พันล้านบาท ก่อนจะนำไปฟอก เงินทรัพย์สินในไทย ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ที่ จ.ตาก บ้าน หรู ราคา 27 ล้าน คอนโดมิเนียม ที่ดิน ที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต




ขณะที่ ตำรวจ ปอท. สะกดรอยติดตามรถตู้สีขาว มีนางหวัง สัญชาติจีน แก๊งฟอกเงินคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่นั่งอยู่ในรถ และและถูกจับได้ ย่านงามวงศ์วาน



นางหวัง เป็นภรรยาของนายเกา ซึ่งถูกจับ ที่บ้านพักหรูย่านพระราม 9 โดยทั้งสองยังมีนส.ชณัฐธิษาหรือ ไอโซน้ำแข็งและสามี ร่วมกันฟอกเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยไอโซน้ำแข็ง ถูกจับขณะเดินทางกลับจากเขตพื้นทีเศรษฐกิจพิเศษ คิงโรมัน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และอ้างว่ามีรายได้มาจากเปิดบริษัทขายเครื่องสำอาง ทั้งที่ขายไม่ได้ และขาดทุนมาตลอด สวนทางกับรายได้



ที่มาจากการรับฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตำรวจยังได้จับ นส.ทิพย์วัลย์ พี่สาวของไอโซน้ำแข็ง มาสอบสวน เพราะทำหน้าที่ช่วยแปรสภาพทรัพย์สิน อีกทั้ง นายกิตติคุณ คนสนิท นายเกา ที่ทำหน้าที่เบิกถอนเงินสด ตามคำสั่งนายเกา พร้อมยึดทรัพย์ได้อีก 44 ล้านบาท



จากการเปิดปฏิบัติการ ล้างบางเครือข่ายสารพัดหลอกลงทุน สร้างความเสียหายร่วม 149 ล้านบาท ยึดทรัพย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทากลับมาได้ ร่วมกว่า 2 พันล้านบาท คอลเซ็นเตอร์ยังเป็นคดีที่มีผู้เสียหายมากที่สุดในช่วง 2 เดือนมีถึงกว่า5 หมื่นราย มูลค่าความเสียหายสูงขึ้นมากกว่า7 หมื่นล้านบาท