เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ตร.ยึดทรัพย์เพิ่มกว่า 100 ล้าน พร้อมของกลางเกือบ 100 กก.

ย้อนกลับไปเมื่อช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้สำนักงาน ป.ป.ส. เข้าจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งขณะนั้นจับผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมของกลาง"เฮโรอีน"เกือบ 100 กิโลกรัม เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่บางใหญ่ นนทบุรีจากการตรวจค้นพบว่า เครือข่ายนี้จะใช้วิธีอำพรางโดยการดัดเเปลงรถกระบะทำช่องลับ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายเเดนที่เชียงราย-เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังตามสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง จนรู้ว่าตัวการใหญ่ระดับสั่งการ เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ชื่อนาย"ไอยี่ซอ"



ล่าสุด ในช่วงรุ่งสางวันนี้ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยเลขาธิการ ป.ป.ส. นำ"หน่วยปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19" เข้าตรวจค้น-จับกุมเครือข่ายนี้พร้อมกัน 11 จุดในพื้นที่ 5 จังหวัด ยึดทรัพย์จากเครือข่ายนี้ได้เพิ่มอีกกว่า 100 ล้าน



ปฏิบัติการเริ่มขึ้นในช่วงรุ่งสาง โดยกำลังหลักของ"หน่วยปฏิบัติการพิเศษ อินทรีย์19" เข้าจู่โจมพร้อมกัน 11 จุดในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย พิษณุโลก ชลบุรี นนทบุรี กรุงเทพ เเละเป้าหมายสำคัญอยู่ที่เเม่สาย เชียงราย



เฉพาะที่เชียงราย เป้าหมายการตรวจค้น มีมากถึง 7 จุด ส่วนใหญ่เป็นพักที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้าเฮโรอีน ตัวการใหญ่ระดับสั่งการเป็นชาวเมียนมา ชื่อ"นาย ไอ ยี ซอ" ถูกออกหมายจับร่วมกับพวกอีก 5 คน ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีการจับกุม



ปฏิบัติการครั้งนี้ นำโดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ขยายผล เข้าตรวจค้นเเละสอบผู้ต้องหา ซึ่งต่อมายอมรับว่า รับจ้างทำหน้าที่ลำเลียงยาให้เครือข่ายนี้



เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า การจับกุมครั้งก่อนในโกดังที่นนทบุรี ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเครือข่ายนี้ให้ถึงระดับผู้สั่งการ รวมถึงสืบหาทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด



กระทั่งพบว่า ผู้สั่งการเป็นชาวเมียนมา เคลื่อนไหวเเละอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย มีภรรยาเป็นชาวไทย ใช้ภรรยาและบุคคลอื่นถือครองทรัพย์สินแทน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับรวม 6 คน คือ นาย ไอ ยี ซอ ชาวเมียนมา มีบทบาทเป็นผู้สั่งการให้ลำเลียงเฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม และบุคคลในเครือข่ายอีก 5 คน ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมขบวนการลำเลียง



นอกจากนี้ยังสืบหาทรัพย์สินของบุคคล ที่ถูกออกหมายจับ/ บุคคลที่เกี่ยวข้อง จนนำมาซึ่งการเปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2 โดยยึดทรัพย์ได้เพิ่มอีกกว่า 100 ล้าน ประกอบที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ที่นา ทองคำ เงินสด เงินในบัญชี เเละรถยนต์



ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ย้ำว่าสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดในทุกระดับการค้า สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้จับกุมกวาดล้างยาเสพติด ตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ



ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเเล้ว 3 คน ได้แก่ น.ส.แสงเพชร นายสาม และ นายนิวัตร อีก 3 คนยังหลบหนี คือนายโกวิท นายสุเทพ เเละตัวการสำคัญก็คือ นายไอยี่ซอ จกนี้ป.ป.ส.เเละหน่วยงานภาคี จะร่วมกับขยายผลต่อ เเละจะเร่งติดตามจับกุมที่เหลือให้ได้