สทนช.เตือนภาคใต้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน 27 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ถึง 4 ธันวาคม โดยเฉพาะขณะนี้ ที่จังหวัดพัทลุงมีฝนตกหนัก จนต้องเตือนให้ 11 อำเภอของจังหวัดพัทลุงเฝ้าระวังใกล้ชิด ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็เตือนให้เฝ้าระวังในลุ่มน้ำคลองท่าดี รวมถึงในเขต เทศบาลนคร นครศรีธรรมราชด้วย



โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช สำนักงานชลประทานที่ ๑๕ ออกประกาศเตือนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำคลองท่าดี และเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชฉบับที่ ๑ ให้เฝ้าน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมาจากอิทธิพลของฝนตกหนัก ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 พฤศจิกายนี้ หย่อมความกด อากาศต่ำกำลังแรงบริเวณมหาสมุทรอินเดีย และมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ระลอกใหม่จากประเทศจีน ที่จะแผ่มาปกคลุมประเทศไทย ตอนบนและทะเลจีนใต้ ระหว่าง 27 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้ จะทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกชุกและฝนหนักถึงหนักมาก



โดยปริมาณน้ำฝนสะสมตั้งแต่ 4 โมงเย็นเมื่อวานนี้ ถึง 4 โมงเย็นวันนี้ วัดที่สถานีวัดน้ำฝายท่าดี ตำบลกำแพงเซา อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช ปริมาณน้ำฝนสะสม 135 มิลลิเมตร โดยขณะนี้้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมขังด้วย



ที่จังหวัดพัทลุง ก็มีฝนตกหนักอีกระลอก โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองพัทลุง ทำให้น้ำหลากท่วมผิวทางจราจรหลายสาย โดยเฉพาะสายเพชรเกษมพัทลุง- ตรัง ตรงบ้านส้มตรีด ทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่อง มีน้ำท่วมขังยาวเกือบ 500 เมตร ทำให้แขวงการทางพัทลุง ต้องนำแผงกั้น มาปิดเส้นทางให้ใช้ถนนได้ทางเดียว ขณะที่นายก้องสกุล จันทราช รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ออกประกาศเตือน 11 อำเภอให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน และเตือนประชาชนในพื้นที่เชิงเขาและที่ลาดชัน ในเขตอำเภอกงหรา ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต ตะโหมด ป่าบอน และอำเภอป่าพะยอม ขอให้เฝ้าระวังดินสไลด์ด้วย จากการที่ดินบเชิงเขารับน้ำฝนไว้มาก



สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกประกาศฉบับที่ 20 /2567 เตือนจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตเมือง ให้ระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีความจุน้ำเกินร้อยละ 80 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ให้บริการน้ำให้เมาะสม รวมถึงให้เตรียมความพร้อมช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน.



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดย ปภ.และจังหวัด ได้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว 3 แสน ครัวเรือน ในพื้นที่ 57 จังหวัด เป็นเงินกว่า 3 พันล้านบาท และมีการขยายวงเงินช่วยเหลือภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินใน 5 จังหวัด จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือค่าล้างโคลน ครัวเรือนละ 1 หมื่นบาท ทั้งหมด 2959 ครอบครัว วงเงินกว่า 29 ล้านบาท