ผู้ประกอบการรถเครน ร้อง จนท.ใช้ช่องว่างเรียกส่วยคันละหลักหมื่น แลกไม่ดำเนินคดี วิ่งบนถนนผิดกม.

เราได้ยินคำว่า ส่วยรถบรรทุก อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่คราวนี้ มีกลุ่มผู้ประกอบการรถเครน ได้ร้องเรียนกับข่าว 3 มิติ ว่า มีเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง อาศัยช่องว่างของกฎหมายน้ำหนักบรรทุก ที่คำนวนน้ำหนักกระจายไปตามเพลารถ ทำให้คำนวณอย่างไร รถเครนส่วนใหญ่ ก็ถูกสรุปว่า บรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ไม่สามารถวิ่งบนถนนอย่างถูกกฎหมายได้ ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องถูกเรียกเก็บส่วยรายเดือน


ผู้ประกอบการรถเครนรายนี้ สะท้อนความรู้สึกจากประสบการณ์ ที่ต้องยอมจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ กรมทางหลวง ที่เรียกจับรถเครนขนาด 4 ล้อ หลังจากทำงานเสร็จ และจะนำรถกลับที่พัก เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ที่รถเครนมีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมาย อนุญาตให้น้ำหนักลงเพลารถได้ เขา บอกว่า การนำรถเครนไปจัดหมวดหมู่ให้ใช้กฎหมาย เดียวกันกับรถบรรทุก รถเครนจะไม่สามารถจะนำมาขับขี่บนถนนหลวงได้เลย เพราะลำพังน้ำหนักในตัวรถเครนเองก็มากกว่าที่กฏหมายรถบรรทุกกำหนดไว้อยู้แล้ว จึงกลายเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ ไม่จ่ายก็ถูกจับ


นายกสมาคมผู้ประกอบการรถเครนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัญหารถเครนนี้มีมานานกือบ30 ปีแล้ว เพราะรถเครนไม่มีกฎหมายบังคับใช้โดยตรง แต่เป็นการอิงข้อกฎหมายรถบรรทุก มาใช้เป็นข้อบังคับ ทั้งที่ลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน ถ้าจะให้ผู้ประกอบกิจการรถเครนอยู่รอดและไม่ถูกรังแก รัฐต้องแก้ไขหรือออกกฎหมายใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง


ล่าสุดคณะกรรมการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมผู้ประกอบการรถเครนแห่งประเทศไทย เข้าพบนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อมูลปัญหารถเครน เพื่อเร่งหาแนวทางแก้ไข