คุมตัว 'กฤษอนงค์' สอบเข้มที่กองปราบฯ หลังศาลอนุมัติหมายจับ 2 ข้อหา

ความคืบหน้าคดีตบทรัพย์บอสดิไอคอน ซึ่งมีคลิปเสียง ไปพาดพิงถึงบุคคลอีกหลายวงการ ล่าสุดตำรวจกองปราบสอบสวน นำหมายศาลเข้าจับกุมนางสาวกฤษอนงค์ ในความผิดฐาน กรรโชกทรัพย์ และ เป็นตัวกลางเรียกรับสินบน จากการกรณีแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน จนถึงขณะนี้ตำรวจ ก็ยังคุมตัวเพื่อสอบสวนอยู่



พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำหมายค้นศาลอาญา รัชดา เข้าตรวจค้นอาคารสูง 3 ชั้น มีรั้วสูง ซอยลาดพร้าว 43 ซึ่งเป็นสำนักงานของ นส.กฤษอนงค์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวต้านโกง ภายหลังศาลอาญา คดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ 2 ข้อหา ทั้งกรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ภายหลังเข้าตรวจค้น ตำรวจได้ยึดกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ และเอกสาร 1 กล่องไว้เป็นหลักฐาน โดยเชิญชาย 1 คนไปสอบปากคำที่กองปราบปราม



หลังจากที่ตำรวจอีกชุดนำหมายศาลคดีทุจริตฯ บุกจับนส.กฤษอนงค์ ที่บ้านพักญาติ ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมเข้าตรวจค้นภายในบ้าน สามารถตรวจยึดเอกสารจำนวนมาก รวมถึงคอมพิวเตอร์ ซึ่งคาดว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการออกหมายจับของตำรวจครั้งนีั



ส่วนเหตุผลที่ตำรวจขอหมายจับ นางสาวกฤษอนงค์ ที่ศาลอาญาทุจริตฯ ใน 2 ข้อหา คือ กรรโชกทรัพย์ และ เป็นตัวกลางในการเรียกรับสินบน เนื่องจาก ข้อหา "เป็นตัวกลางในการเรียกรับสินบน เป็นฐานความผิดหนึ่งในการกระทำการทุจริต ในลักษณะของการแอบอ้าง โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเจ้าพนักงานของรัฐ แต่นส.กฤษอนงค์มีการแอบอ้างไปถึงหน่วยงานของรัฐด้วย



สำหรับมูลเหตุสำคัญที่นำมาสู่การออกหมายจับและเข้าจับกุมน.ส.กฤษอนงค์ นั้น เนื่องจากพบหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน ที่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ พอล โอนเข้าบัญชีของมูลนิธิต่อต้านโกง-แชร์ลูกโซ่ "กฤษอนงค์ต้านโกง" จำนวน 4 แสน 5 หมื่นบาท รวมไปถึงเงินสดที่นายวรัตน์พล นำไปมอบให้อีกจำนวน 3 แสนบาท



สอดคล้องกับคำให้การของพยานบุคคลต่างๆที่ให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า หลังมีการเปิดโปงธุรกิจเครือข่ายดิไอคอน จนเป็นข่าวดังขึ้นมา น.ส.กฤษอนงค์ ได้เข้าไปพูดคุยกับบอสพอล และ คนใกล้ชิด เพื่อขอเรียกเงินจำนวน 7 แสน 5 หมื่นบาท แลกกับการไม่พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม หรือ ไม่เปิดโปงเรื่องราวให้บริษัทเสียหายไปมากกว่านี้ พร้อมทั้งพยายามพูดปลอบประโลมให้คำแนะนำทางคดีต่างๆจนบอสพอล ต้องจำยอมจ่ายเงินรวมจำนวน 7 แสน5หมื่นบาทให้ตามที่ น.ส.กฤษอนงค์ เรียกร้อง



นอกจากนี้ฝั่งบอสคดีดิไอคอน รวมถึงพยานบุคคลต่างๆ ยังให้การสอดคล้องกันว่า ตัว น.ส.กฤษอนงค์ ยังมีการพูดแอบอ้างเรียกเงินบางส่วนเพิ่มอ้างว่าจะนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ในภาครัฐ สอดคล้องกับหลักฐานจนเป็นเหตุให้มีการออกหมายจับ



แนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า แม้ น.ส.กฤษอนงค์ จะมีส่วนสำคัญในการเป็นตัวกลางเจรจากับบอสพอล จนทำให้ บอสพอล ยอมจ่ายเงินชดใช้คืนให้กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 ล้านบาท แต่ภายหลังกลับพบว่า น.ส.กฤษอนงค์ นั้น กลับไปเรียกเก็บเงินคืนจากผู้เสียหายคิดเป็นเงินร้อยละ 20 ของเงินที่ผู้เสียหายได้กลับคืนอีกด้วย



ขณะที่ นส.กฤษอนงค์ ยังถูกนำหลักฐานการพูดคุยกับบอสพอล ว่า มีการจ่ายเงินให้กับดีเอสไอ จำนวน 10 ล้าน หลังตกเป็นผู้ต้องหา พร้อมอดีตสามี ยศ พ.ต.อ. คดีแชร์ลูกโซ่ ปี 2560 โดยถูก กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบเร่งรัดการปราบปรามการกระทำผิดแชร์ลุกโซ่ จับกุมทั้งหมด 6 คน แต่เมื่อส่งสำนวนไปยังอัยการคดีพิเศษ อัยการสั่งไม่ฟ้อง นส.กฤษอนงค์ และ อดีตสามียศ พ.ต.อ. และบริษัทนิติบุคคล สั่งฟ้องเพียงนายทรัพย์อานันท์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง พร้อมพวกรวม 3 คน เมื่อส่งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ มายังดีเอสไอ



โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอชุดทำคดี ไม่ได้มีส่วนในการพิจารณาความเห็นแย้ง เนื่องจาก ดีเอสไอ มี กองงานความเห็นแย้ง เป็นผู้รับผิดชอบ ว่าจะเห็นด้วยกับอัยการหรือจะมีความเห็นแย้ง แต่เมื่อไม่แย้งอัยการ ทำให้ นส.กฤษอนงค์ พร้อมอดีตสามีตำรวจ รอดคดีในปี 2560 จนเป็นที่มาของคลิปเสียง จ่ายเงิน 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้บริหารชุดที่ นส.กฤษอนงค์กล่าวถึง ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว