สังคม

ลูกความแฉ 'ทนายตั้ม' อ้างจะช่วยคดี สุดท้ายพลิกไปอีกฝั่ง ลั่นรอมา 9 ปี กระชากหน้ากากคนดี

โดย panwilai_c

9 พ.ย. 2567

113 views

การสื่อสารต่อสาธารณะชน ว่าเป็นมูลนิธิทนายประชาชน ทำให้ชาวบ้านให้ความเชื่อถือ เพื่อเป็นตัวแทนในการต่อสู้ในชั้นศาล แต่หลายคดี นายษิทรา กลับแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อมาตรวจสอบข้อมูลกับผู้เสียหาย และนำพยานหลักฐานไปเป็นประโยชน์ให้ฝ่ายจำเลยชนะคดี แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีผู้เสียหายที่เคยสัมผัสพฤติกรรมของนายษิทราครอบครัวหนึ่ง เคยออกมาเปิดเผยพฤติกรรม แต่กลับถูกกระแสสังคมโจมตีว่าให้ข้อมูลเท็จ



การออกสื่อ และโซเชียล ในฐานะทนายประชาชน จนเป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียง ทำให้ชาวบ้านต่างคาดหวังอยากให้เป็นทนายช่วยเหลือด้านคดีจากความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม



แต่เมื่อทนายตั้มเข้ามาทำคดี พบว่ากลับถูกซ้ำเติมให้บอบช้ำไปอีก มารดาของเด็กชายวัย 8 ขวบ ได้ย้อนคืนเกิดเหตุ เมื่อ 9 ปี ก่อนว่า ทนายตั้มมักจะแสดงบทคนดี มีการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หรือองค์กรรัฐ เข้าหาข้อมูลของผู้เสียหาย ก่อนพลิกไปอยู่ฝั่งคู่กรณี



ดังเช่นคดีของลูกชายวัย 8 ขวบ ที่ทนายตั้มอ้างจะช่วยสุดท้ายไปทำคดีให้มือปืน ชื่อนายหนุ่ม ที่จะยิงญาติ แต่กระสุนไปถูกลูกวัย 8 ขวบเสียชีวิต ศาลชั้นต้นตัดสินให้นายหนุ่มจำคุก 25 ปี หลังจากนั้นทนายตั้ม ได้เดินทางมาพร้อมกับ(นายเบียร์)คนสนิทพร้อมบอกว่าได้พูดให้นายหนุ่ม รับสารภาพแล้ว และขอดูที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นเมื่อไปขึ้นศาลเห็นทนายตั้มอยู่ฝั่งผู้ก่อเหตุ และนายเบียร์คนสนิทสมัยนั้น เป็นพี่ชายของมือปืน และศาลได้ยกฟ้องในชั้นอุทธรณ์ จึงเชื่อว่าหากไม่มีทนายตั้มเข้ามายุ่งเหยิงกับคดีมือปืนจะได้รับโทษเป็นไปตามกฎหมาย ต้องตายฟรี



การไปขึ้นศาลแต่ละครั้งทนายตั้มมากันเป็นทีม 4-5คน และขณะนั้นคนส่วนใหญ่เชื่อทนายตั้ม ครั้งหนึ่งได้ไปออกสื่อ ตนเองกลับเป็นฝ่ายที่ถูกโซเชียล รุมด่าว่าใส่ร้ายทนายตั้ม รอมา 9 ปี ถึงพิสูจน์ได้ใครพูดเท็จ



ขณะที่ ตำรวจได้รับผลกระทบจากทนายตั้มในเส้นเงิน 39 ล้านบาท โดยผกก. สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า รู้จักกับทนายตั้ม 5 ปีแล้ว เห็นภาพพจน์ของทนายตั้มเป็นคนดี เพราะบอกว่าเป็นมูลนิธิทนายประชาชน โดยทนายตั้ม มักจะขอให้ ลงบันทึกประจำวันแล้วหลายเรื่อง



ในวันเกิดเหตุ ช่วงเดือน พฤษภาคมปีที่แล้ว ทนายตั้มโทรมาบอกว่า จะมีคนเข้ามาลงบันทึกประจำวัน โดยไม่ได้แจ้งว่าเป็นเรื่องใด จนกระทั่งมาตกเป็นข่าวถึงมารู้ว่าใบบันทึกประจำวัน ที่ทนายตั้มให้พรรคพวกมาลงไว้นำไปหลอกนางจตุพร โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งตนขายรายหน้าเป็นรายได้เสริม นอกจากนี้ยังถูงโยงว่าเพื่อนร่วมรุ่น สนิทกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเองก็มีโอกาสได้คุยกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับทราบว่าเลิกคบกับทนายตั้ม ไปนานแล้ว



ขณะที่รางวัลประกาศเกียรติคุณ ซึ่งทนายตั้มได้รับมา หลายรางวัล ทั้งคนดีศรีแผ่นดิน ต้นแบบคนดี และมีประกาศโล่ห์ขอบคุณ จากสถาบันการศึกษา ที่ทนายตั้ม เป็นวิทยากรพิเศษ วิชานวัตกรรม ดิจิทัล และเทคโนโลยี เมื่อ เดือนพฤศจิกายน 2565

แต่การให้สัมภาษณ์ครั้งหลังสุดของทนายตั้ม เรื่องเส้นเงิน 39 ล้าน กลับบอกว่า ไม่มีความรู้เรื่องคลิปโต จึงให้เพื่อนชื่อนุวัฒน์และสารินีเป็นผู้โอนคลิปโตไปจ่ายค่าโชว์ตัวดาราจีน จนถูกแฮกบัญชี



การเป็นวิทยากรพิเศษ ให้กับนักศึกษาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ยืนยันว่าทนายตั้มต้องมีความรู้พอสมควร และเชื่อว่าเส้นเงิน 39 ล้าน ต้องมีทนายตั้มอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากการทำธุรกรรม นายนุวัฒน์และสาริณีมักอยู่บ้านทนายตั้ม ซึ่งใช้เป็นสถานที่แปลงทรัพย์สิน

คุณอาจสนใจ

Related News