สังคม

เปิดเบื้องหลังแผนจับ 'ทนายตั้ม-เมีย' หลังพบหลักฐานฉ้อโกง-ฟอกเงิน แจ้ง 4 ข้อหา ค้านประกันตัว

โดย panwilai_c

7 พ.ย. 2567

221 views

คดีของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด วันนี้ทนายษิทรา และภรรยาถูกตำรวจควบคุมตัวได้ที่ถนนกบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ส่วนภรรยาถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยทั้งสองคนเตรียมหนีออกนอกประเทศ



โดยทนายษิทรา นอกจากถูกกล่าวหาฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบาท ที่ได้รับโอนจากนางจตุพร อุบลเลิศหรือนางอ้อยแล้ว ยังมี เส้นเงินเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน อีกจำนวน 39 ล้านบาท ที่มีการสร้างเรื่องขึ้นมาหลอกเจ้าทรัพย์ โดยมีหลายคนเกี่ยวข้อง ร่วมทั้งทนายษิทราและภรรยา



ตำรวจสอบสวนกลางโดยกองปราบปราม ประสานการทำงานไปยังตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา ให้สกัดจับรถปอร์เช่ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ธก 999 กรุงเทพ ในเวลา 11 นาฬิกา เมื่อรถสายตรวจพบรถหมายเลขทะเบียนนี้ จึงใช้วิทยุเรียกให้จอด โดยทนายตั้ม พร้อมภรรยา แต่งชุดสีขาว อ้างว่าจะไปปฏิบัติธรรม ที่จ.สระแก้ว



โดยที่ผ่านมารถปอร์เช่ของทนายตั้มใช้หมายเลข ภบ 6500 และสลับมาใช้หมายเลข ธก 999 กรุงเทพ โดยหมายเลขทะเบียน ภบ 6500 เคยถุกใบสั่งจราจร เพราะเป็นป้ายว่าง ไม่มีสิทธิ์ใช้แล้ว



ขณะที่ปฏิบัติการจับ ทนายตั้ม เส้นเงิน 39 ล้านบาท เป็นอีกเส้นหนึ่ง ที่ตำรวจกองปราบปรามได้หลักฐานชัดเจนอันนำไปสู่การออกหมายจับในคดีฉ้อโกง และการฟอกเงิน แม้ทนายตั้มจะเน้นว่าเงินก้อนนี้ ตัวเองไม่เกี่ยวข้อง มีเพื่อนชื่อ นุวัฒน์ และสาริณี เป็นผู้ได้รับการโอนเงินก้อนนี้



แต่จากการสืบสวนของตำรจพบว่า มีการสร้างละครตบตานางจตุพรว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพแฮกกระเป๋าเงินดิจิทัลไป จากการตรวจสอบ การโอนของเงินก้อนนี้ พบว่า บริษัทซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินคลิปโต



ที่นายนุวัฒน์และนางสาวสาริณี อ้างว่าถูกแฮกกระเป๋าวอลเล็ต และเงินถูกฟีซไว้ พบว่าเงินไม่ได้มีการถูกแฮก แต่มีการแคปภาพจากบริษัทซื้อขายเหรียญดิจิทัล ที่เป็นใบแจ้งเตือน มาหลอกเท่านั้น



โดยไม่ได้มีการถูกแฮก หรือถูกอายัดในกระเป๋าดิจิตอลวอลเล็ตแต่อย่างใด และทำให้กระเป๋าเงินและบัญชีผู้ใช้ยังใช้งานได้ปกติ ไม่ได้ถูกปิดจากบริษัทแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอล การเดินทางไปแจ้งความของ นายนุ และนส.สาริณี ที่ไปแจ้งต่อ สน.บางซื่อว่าเงินถุกมิจฉาชีพปลอมเป็น เฉินคุน ดาราจีน ที่นางจตุพร ต้องการจ้างมาโชว์ตัว แต่เงินคลิปโตที่โอนไปแฮกไปไหมดบัญชี จึงน่าจะเป็นการโอนออกจากกระเป๋าเงินของนายนุ และ นส.สารีณี ไปยังกระเป๋าวอลเล็ตใบอื่น ที่ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ อาจเป็นกระเป๋าเงินของผู้ต้องหาเอง ก็ได้



จากการตรวจสอบประวัตินายนุวัฒน์ ซึ่งคาดว่าเป็นทีมแบล็คอัพให้ทนายตั้ม ตามคำสั่ง นายนุมีประวัติเกี่ยวข้องกับการทำเว็บพนัน ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้น่าจะเกี่ยวพัน กับจีนเทาที่ทำเว็บพนันออนไลน์อยู่ฝั่งปอยเปต ก็เป็นได้



หลังถูกจับกุม ตำรวจได้คุมตัวทนายษิทราและภรรยามาสอบสวน โดยแยกห้องกันสอบสวน เบื้องต้นทั้งสองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยตำรวจคัดค้านการประกัน เพราะมีพฤติกรรมยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน



หลังจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ถูกควบคุมตัว ที่ริมถนนกบินทร์บุรี -ฉะเชิงเทรา ใกล้แยกพนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถูกควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามทันที



โดยแยกกันสอบสวนนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยมีพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทั้งสองเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะทราบว่าถูกออกหมายจับ โดยตำรวจไปขอหมายช่วง 11 นาฬิกา ทนายตั้มและภรรยา ออกจากบ้านย่านตลิ่งชัน ในเวลา 9.00 น. โดยขับรถมุ่งหน้าออกประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตำรวจประสานตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา ช่วยสกัดจับได้ เบื้องต้นทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และหลังจากสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากในหมายจับคดีมีอัตราโทษสูงเกิน 3 ปี และผู้ต้องหามีพฤติกรรมไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจากกรณีนางจตุพร หรือเจ๊อ้อยโอนเงินจำนวน 71 ล้าน ส่วนที่อ้างว่าจะไปปฏิบัติธรรมก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่มีสิทธิ์จะพูด



ส่วนพยานบางปากที่ถูกกันไว้เป็นพยานก่อนหน้านี้ จากการสืบสวนพบว่ามีพฤติการณ์ เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับทนายทนายตั้ม ประเด็นนี้ยังต้องช่างน้ำหนักตามกฏหมาย



หลังจากถูกควบคุมตัว ตำรวจชุดสืบสวนนำหมายเข้าค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน ซึ่งเป็นจุดที่นำเงินไปแปลสภาพ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจค้น แต่ทางหมู่บ้านไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป โดยมีรายงานข่าวว่า เมื่อเช้าทนายตั้ม ได้ขับรถยนต์หรู สีน้ำตาลออกไปจากหมู่บ้านเมื่อเวลาประมาณ 9นาฬิกา 30 นาที



ในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจยึดเอกสาร และทรัพย์สินแบรนด์เนม 21 รายการ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง นาฬิกา 2 เรือน บัตรเครดิต 3 ใบ โทเคนคี 1 อัน



โดยตำรวจได้ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ เข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวของทนายตั้มในหมู่บ้านตั้งแต่เช้า โดยเพจของตำรวจสอบสวนกลางได้โพสต์ ภาพการเข้าตรวจค้นบ้าน ซึ่งมีรถตู้หรู และรถกระบะสีขาว จอดอยู่ในบ้าน นอกจากนี้ยังไปค้นบ้านที่จ.สมุทรสาคร และ สำนักงานทนายความย่านสาธรด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News