'ภูมิธรรม-ศปช. เชียงราย' ฟื้นฟู-ส่งมอบพื้นที่ประสบอุทกภัย คืนให้ปชช. ชาวแม่สาย

ผ่านมา 40 วันหลังอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประสบอุทกภัยน้ำท่วม โคลน ทราย ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายกว่า 7,000 หลังคาเรือน ความเสียหายไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท วันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช.ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย ส่งคืนฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยระยะที่ 1 ให้กับประชาชนแล้ว


ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้ทำพิธีส่งมอบพื้นที่ประสบอุทกภัย คืนให้กับประชาชนชาวอำเภอแม่สาย บริเวณหน้าด่านพรมแดน ไทย-เมียนมาร์อำเภอแม่สาย แห่งที่ 1 จังหวัดเชียงราย หลังจากที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งทหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยราชการจิตอาสา เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ของอำเภอแม่สายในรอบ 20 ปีตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 มีการช่วยเหลือขุดดินโคลนออกจากบ้านเรือนที่น้องประชาชนที่ดูแม่น้ำสายเอ่อล้นฝั่ง เข้าร่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างหนัก โดยเฉพาะตำบลเวียงพางคำตำบลตำบลแม่สาย ตำบลแม่สายมิตรภาพ และใกล้เคียง จนสามารถคืนพื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชนได้กลับเข้าไปใช้ชีวิตเป็นเกือบปกติอีกครั้ง ในวันนี้ โดยมีตัวแทนจากตำบล โดยนายกเทศมนตรี ได้เข้ารับมอบพื้นที่คืน โดยคาดว่าจะมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้รวมประมาณไม่น้อยกว่า 7,000 หลังคาเรือน ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4,000 ล้านบาท


จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปบริเวณริมแม่น้ำสาย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่าหลังจากนี้ไปจะเป็นแนวทางในการฟื้นฟูและจัดระเบียบการใช้พื้นที่ริมแม่น้ำสายเนื่องจากแม่น้ำสายซึ่งมีต้นน้ำในเขตประเทศเมียนมาร์ ได้ทะลักลงจากภูเขาสูง ประกอบกับลำน้ำสายบริเวณอำเภอแม่สายและฝั่งตรงข้ามคือจังหวัดท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมาร์ มีความตื้นเขิน และมีประชาชนทั้งสองฝั่งได้สร้างบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ เข้าไปที่ลำน้ำสาย และบางส่วนน่าจะบุกรุกเข้าไปในแม่น้ำ ซึ่งทางฝ่ายเมียนมาร์ มีความพร้อมในการที่จะเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้น ที่ที่มีปัญหาดังกล่าวแล้ว


นายภูมิธรรมกล่าวเพิ่มเติมว่าจากนี้จะมีการเร่งจัดสรรงบประมาณลงมาเพื่อแก้ไขเยียวยาเพื่อให้เกิดผลสำเร็จสมบูรณ์ตามเป้าหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุทกภัยใหญ่แบบเช่นปีนี้อีก และเบื้องต้นทางฝ่ายไทยและเมียนมาร์ได้มีการเริ่มติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยน้ำท่วมบริเวณต้นน้ำลำน้ำสาย ซึ่งอุปกรณ์บางส่วนได้ชำรุดเสียหายไปให้มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ส่วนที่ในประเทศเพื่อนบ้านมีการให้สัมปทานทำเหมืองแร่จำนวนมากบริเวณต้นน้ำสาย ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดอุทกภัยใหญ่เป็นเรื่องภายในของประเทศเพื่อนบ้านซึ่งไทยอาจจะมีการหารือเพื่อขอความช่วยเหลือแก้ไขต่อไป


สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยระยะที่ 1 ที่อำเภอแม่สายเป็นการฟื้นฟูทางกายภาพ การชะล้างทำความสะอาด ลอกท่อเคลียร์ดินโคลนในพื้นที่ ส่วนการฟื้นฟูระยะที่ 2 จะเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเป็นภารกิจของกระทรวงมหาดไทย จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย เทศบาลตำบลแม่สาย เทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ และเทศบาลตำบลเวียงพางคำ ร่วมดำเนินการฟื้นฟูต่อไป