ภาคีเครือข่ายตากใบต้องไม่เงียบ เรียกร้องรัฐจับกุม 7 จำเลย ก่อนคดีหมดอายุความ

ภาคีเครือข่ายตากใบต้องไม่เงียบ ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล เรียกร้องให้มีการติดตามจับกุม 7 จำเลยคดีตากใบอย่างเร่งด่วน ก่อนหมดอายุความ หากสุดท้ายล้มเหลว รัฐควรมีมาตรการเพื่อเยียวยาความยุติธรรม ด้วยการใช้กลไกตั้งคณะกรรมการอิสระมาชำระล้างประวัติศาสตร์คดีตากใบ เปิดทางสู่การสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้



ก่อนคดีตากใบจะหมดอายุความในอีก 4 วัน หลายองค์กรได้จัดเวทีเสวนา เพื่อนำเสนอความคิดเห็นต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุที่หน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ในกิจกรรมตากใบต้องไม่เงียบ และอยากเห็นการเปลี่ยนผ่านคดีตากใบไปสู่แนวทางสันติภาพ มากกว่าการนำไปสุ่ความรุนแรงหากยังไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะความต้องการของญาติที่ยื่นฟ้องใหม่ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้มาพิสูจน์ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะออกมาแสดงความจริงใจ



นอกจากนี้ยังเห็นว่าเหตุการณ์ตากใบเป็นบทเรียนของการไม่ใช้กำลังในการสลายการชุมนุม และวิธีการลำเลียงคนใส่รถบรรทุก จนมีผู้เสียชีวิต 78 คน ที่ต้องแยกออกจากขบวนการแบ่งแยกดินแดน จึงคาดหวังจะเห็นรัฐบาลทำเรื่องง่ายๆ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ว่าได้รับความยุติธรรม เช่นการประกาศติดตามจับกุมผู้ต้องหาอย่างจริงจัง



นอกจากนี้ยังเห็นด้วยว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในคดีตากใบ ไม่ควรมีอายุความ ซึ่งอาจแก้ไขกฏหมายไม่ทันแล้ว สุดท้ายหากตามตัวใครไม่ได้ก็อยากเห็นรัฐบาลขอโทษประชาชน



ACT LAB และเครือข่ายยังอ่านจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล ​ขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งรัดทุกหน่วยงานจับกุมจำเลยในคดีตากใบ ให้ทันหมดอายุความ หากรัฐล้มเหลวในการนำตัวจำเลยขึ้นสู่ศาล ซึ่งจะเป็นตราบาปหนึ่ง แต่รัฐบาลยังสามารถดำเนินการต่อไปด้วยกลไกอื่นได้ เช่น ขอให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อความจริง มีอำนาจหน้าที่คล้ายกับคณะกรรมการ Truth and Reconciliation ของแอฟริกาใต้



โดยสามารถเชิญจำเลยทั้ง 7 และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นอดีตข้าราชการ มาให้ ความจริง หากไม่ให้ความร่วมมือแก่คณะกรรมการอิสระฯ คณะกรรมการฯสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณางดเงินบำนาญหรือดำเนินการถอดยศจำเลยผู้นั้นได้ และขอให้คณะรัฐมนตรี มีมติให้หน่วยราชการในพื้นที่ ให้ความร่วมมือกับญาติมิตรของผู้เสียชีวิตในกรณีตากใบ ในการจัดพิธีรำลึกเหตุการณ์ตากใบเป็นประจำทุกปี เพื่อเยียวยาความรู้สึกประชาชน