ทนาย 'บอสพอล' มั่นใจพยานหลักฐานครบ นักร้องสาว ก.ตบทรัพย์ 10 ล้านจริง

ความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวเนื่องกับคดี"ดิไอคอน" โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนวันนี้ ก็คือกรณีคลิปเสียงนักร้องเรียน เรียกตบทรัพย์"บอสพอล"มากถึง 10 ล้านบาท" ล่าสุด ทนายความของ"บอสพอล"ออกเปิดเผยข้อมูลโดยอ้างว่า "ลูกความของเขา เคยถูกนักร้องเรียนฯรายนี้เรียกเงินจริง มีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน ส่วนกรณีคลิปเสียงเทวดา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่าตรวจสอบเเล้ว ยืนยันว่าทั้ง 3 คลิปไม่ใช่เสียง AI กำลังพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล



นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ "บอสพอล" บ่ายวันนี้เข้าเยี่ยม นางสาวปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนบอสพอลยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องเอกสาร ระหว่างนั้น ทีมข่าวได้สอบถามความคืบหน้าเรื่องการจ่ายเงิน 10 ล้านบาท ให้กับนักร้องเรียนหญิงคนหนึ่ง โดยทนายวิฑูรย์ บอกว่า ตัวเขารู้รายละเอียดเรื่องนี้ดี เเละมีพยานบุคคลยืนยันได้ว่า ครั้งหนึ่งเคยถูกบุคคลรายนี้เข้ามาหาเเละอ้างว่า จะไปร้องปคบ.ว่าธุรกิจของดิไอคอน เป็นเป็นการขายตรงหรือแชร์ลูกโซ่



เเต่สุดท้ายบอสพอล ก็ยอมจ่ายเงินไป 10 ล้านบาท และจ่ายอีกก้อนสุดท้าย 4 แสนบาทเป็นเงินสด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม สำหรับเงิน 4 แสนบาท นักร้องเรียนรายนี้อ้างว่า "เป็นค่าดำเนินการเรื่องเอกสาร ค่าปริ้นท์งาน ค่าถ่ายเอกสาร เเละค่าเหนื่อย ส่วนประเด็นที่สงสัยว่า ถ้าไม่ผิดทำไมถึงยอมจ่าย ทนายวิฑูรย์ อ้างว่า คนทำธุรกิจไม่มีใครอยากมีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล



เมื่อถามว่า มีนักร้องคนอื่นนอกจากนักร้องเรียนหญิงคนนี้หรือไม่ ทนายความหัวเราะ เเละบอกว่า "เดี๋ยวมันจะลาม บอกไม่ได้"



จากประเด็นนี้ก็ทำให้หลายคนสงสัยว่า นักร้องเรียนที่ทนายของบอสพอลพูดถึง คือใครกันเเน่ เเละหนึ่งในคนที่ออกมาบอกใบ้ข้อมูลก็คือ คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิพลอย พูดในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยบอกว่า ผู้หญิงคนนี้ เคยแฝงตัวมาในรายการโหนกระแสด้วย และตัวคุณหนุ่มกรรชัย ก็ได้ยินมานานแล้ว แต่ไม่มีหลักฐาน จึงอยากเชิญมาออกรายการ เพราะอยากเห็นด้วยตัวเองว่าเป็นยังไง



จากกระแสข่าวนี้ ก็มีหลายคนที่ถูกพุ่งเป้า หนึ่งในนั้นก็รวมถึง คุณกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ เเละ ศูนย์ข่าวต่อต้านโกง ซึ่งได้มีการโพสต์ผ่านเพจว่า " ตบ-ไม่ตบ มาฟังจากปาก พร้อมหลักฐานทุกมิติ สังคมที่ยุติโดยธรรมต้องฟังให้รอบด้าน พรุ่งนี้รับฟังพร้อมกัน เปลี่ยนเป็นที่ รายการโหนกระแส"



ล่าสุด เธอได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 บอกว่า ส่วนตัวไม่ได้ฟังคลิปเสียง แต่ที่หลายคนพุ่งเป้าไป เพราะเธอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้เสียหาย และอยู่ในกระบวนการการช่วยเหลือแชร์ลูกโซ่มา 19 ปี



ส่วนตัวเลขเงินประมาณการคร่าว ๆ เธอมองว่า น่าจะเป็นตัวเลขของผู้เสียหายที่เธอเคยดำเนินการดูแลผู้เสียหายชุดแรก 89 คน ยอดอยู่ที่ประมาณ 8 ล้าน แต่เริ่มต้นผู้เสียหายเรียกร้องมา 15 ล้านซึ่งทางฝ่ายคู่กรณีขอเจรจาอยู่ที่ 8 ล้านบาท ซึ่งก็เจรจาตรงกับผู้เสียหายเอง และเงินก็จ่ายโดยตรงไปที่ผู้เสียหาย แต่เนื่องจากตนเองเป็นคนประสานตรงกลาง จึงมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์



เธอยอมรับว่า รู้จักกับบอสพอลเป็นการส่วนตัวมานานถึง 10 ปีเเล้ว แต่ก็ไม่ได้สนิทกัน ตั้งเเต่เป็นผู้จำหน่ายอิสระ จนกระทั่งเปิดบริษัทเอง เเละเริ่มมีผู้เสียหายมาร้องเรียน



นอกจากนี้ยังยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีการเสนอจากฝ่ายของบอสพอลว่า "ไม่ให้ทำ จะเอายังไง เอาเท่าไหร่" ซึ่งตนเองก็บอกไปว่าจ่ายที่ตนเองมันก็ไม่จบอยู่ดี มันต้องไปเยียวยาผู้เสียหาย ก็เลยบอกให้มาฟังผู้เสียหายเอง เลยเกิดการเจรจาคุยกันเป็นเดือน จนกระทั่งตกผลึกที่ 50% โดยการจ่ายเงินสดโดยตรงไปที่ผู้เสียหาย เเละบางส่วนโอนเข้ากองทุนกลุ่มเปราะบาง ที่เป็นกลุ่มออนไลน์ แล้วทางกองทุนก็โอนต่อ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา



เธอบอกว่าพร้อมชี้แจง ยืนยันว่าไม่ได้กังวลเพราะอยู่มาถึง 19 ปี อยู่กับโจรมารู้ว่าโจรคิดอะไร ไม่เคยอัดเสียงใคร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด



ส่วนประเด็นเรื่องส่วนแบ่ง 20% ที่ถูกกล่าวอ้างว่าจ่ายให้กับผู้ร้องเรียน เธอชี้แจงว่า หลังจากผู้เสียหายได้เงินเเล้ว ก็อยากจะสนับสนุนเธอ ยืนยันไม่ได้บังคับให้โอน แต่ที่ทราบคือมีแกนนำของผู้เสียหาย ตกลงในกลุ่มว่าให้โอนสนับสนุน จึงให้โอนเงินผ่านกองทุนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี money game แชร์ลูกโซ่ ซึ่งเงินเหล่านี้ก็จะนำไปใช้ช่วยเหลือผู้เสียหายรายอื่น ๆต่อไป



ส่วนที่ทนายความของบอสพอล พูดว่านักร้องหญิงท่านนี้ให้โอนเงิน 10 ล้านบาท และมีการโอนอีก 400,000 บาทนั้น ก็อยากฝากบอกทนายความว่าให้เอาหลักฐานมา



เรื่องคลิปเสียงเทวดา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาพยานคนสำคัญในคดีดิไอคอน เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจสอบสวนกลาง โดยเฉพาะประเด็นคลิปเสียงสนทนา และการจ่ายเงินให้กับกลุ่มที่เรียกกันว่า"เทวดา" ซึ่งเชื่อว่าเร็ว ๆ นี้ พยานหลักฐานน่าจะเพียงพอต่อการเข้าจับกุมเหล่า "เทวดา" ที่ปรากฏในคลิปเสียง



พยานรายนี้ยังมีข้อมูลว่า บอสพอลได้พูดคุยกับคนอื่น ๆ อีกหลายคน ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในฝ่ายการเมืองระดับสูง



พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า คลิปเสียง มี 3 คลิป ส่งตรวจสอบเเล้ว เบื้องต้นยืนยันได้ว่าทั้ง 3 คลิป ได้แก่ คลิปบอสพอลคุยกับประทีป คลิปบอสพอลคุยกับนาย ส.เสือ และคลิปที่คุยเรื่องเทวดา เป็นคลิปเสียงจริงไม่ใช่คลิปตัดต่อหรือ AI ตอนนี้ต้องการได้คลิปฉบับเต็มเพื่อที่จะยืนยันตัวตนได้ว่า เสียงในคลิปเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างจริงหรือไม่ เเละต้องตรวจสอบสถานภาพของบุคคลในคลิปเสียงด้วยว่า ในเวลานั้น เป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถเอาผิดได้แน่นอน



สำหรับเรื่อง "เทวดา" ตอนนี้ยังไม่ทราบตัวตนว่าเป็นใคร ซึ่งก็อยากเจอเทวดาเหมือนกัน เพราะอยากรู้ว่าเทวดามีอยู่จริงหรือไม่ พร้อมจะดำเนินการกระชากหน้ากากออกมาให้หมด โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำเพื่อสังคม ที่อ้างตัวเองว่ามีวิธีปราบปราบกระบวนการแชร์ลูกโซ่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า กลุ่มพระเอกนางเอกในวันนี้ อาจจะเป็นผู้ร้ายก็ได้ และเทวดาก็อาจจะตกสวรรค์



ส่วนการอายัดทรัพย์ วันนี้ตำรวจเข้าไปยึดรถลัมโบกินี่ รุ่น HURACAN EVO สีเขียว มูลค่า 22 ล้านบาท เป็นรถยนต์หรูคันล่าสุดของ "บอสพอล" โดยทีมทนายของบอสพอล ระบุว่า ได้รับการประสานมาจากทางญาติของบอสพอล มีคนแจ้งมาว่า จอดรถคันนี้ไว้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อหน้าวัดลาดพร้าว เท่ากับว่า คันนี้เป็นรถยนต์คันที่ 9 แล้ว ที่ตำรวจยึดมาได้จากบอสพอล



จนถึงวันนี้ ที่บก.ปคบ รับแจ้งความจากผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับ ดิไอคอนกรุ๊ป เฉพาะที่ บก.ปคบ.สอบปากคำแล้ว มีจำนวนมากถึง 2,963 ราย มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 983 ล้านบาท ส่วนยอดผู้เสียหายที่ไปแจ้งความตามสถานีตำรวจทั่วประเทศ เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 18-19 ตุลาคม 2567 อยู่ที่ 2,773 ราย ความเสียหายกว่า 632 ล้านบาท



ขณะที่ทรัพย์สินที่ตำรวจสอบสวนกลางอายัดไว้จากบอสทั้ง 18 คน ประมาณ 225 ล้านบาท ได้แก่ รถยนต์ 30 คัน บ้านและที่ดิน 3 แปลง เงินสด 7,524,000 บาท ทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เช่น นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนเนม 151 รายการ และปืน 2 กระบอก ล่าสุด ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ 18 บอส ดิ ไอคอน กรุ๊ป ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แล้ว