สังคม

ตำรวจเร่งสรุปสำนวนคดี 'ดิไอคอน' 18 บอส ชุดแรกก่อน 31.ต.ค.นี้

โดย parichat_p

20 ต.ค. 2567

24 views

ความคืบหน้าคดีดิไอคอน แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่ตำรวจก็ยังคงเดินหน้าขยายผลยึดทรัพย์ ที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงประชาชนของบอสกลุ่มแรก อย่างต่อเนื่อง


ความคืบหน้าคดี the icon group ในช่วงเช้าวันนี้ ยังมีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บริเวณชั้นสองของอาคารตึกประชาอารักษ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้พนักงานสอบสวนยังคงทำงานตามปกติ โดยจำนวนยอดผู้เสียหายรวมตอนนี้มีกว่า 4,743 คนแล้ว มูลค่าความเสียหาย กว่า เกือบ 1,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับความ


คืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหา ร่วมขบวนการฉ้อโกงประชาชนแถว 2 มีรายงานว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากสำนวนคดีในส่วนของ 18 ผู้บริหารหลักยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องดำเนินการเร่งสรุปสำนวน เพื่อให้ทันครบกำหนดฝากขังก่อน ประกอบกับยังมีผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัดและต่างประเทศจำนวนมากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมเข้าแจ้งความ ซึ่งหากผู้เสียหายเข้าแจ้งความไม่ทัน ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคมนี้ ทางพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องตัดสำนวน เนื่องจากเร่งสรุปความเห็นและดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ทั้ง 18 คนแรกก่อน ส่วนผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความหลังจากนั้น มีรายงานว่า ตำรวจจะตั้งเลขคดีใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า


อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนคณะทำงานชุดเล็กของปคบ.ได้ประชุมความคืบหน้าทางคดีเพื่อสรุปสำนวนรายละเอียดเพื่อเตรียมรายงานที่ประชุมคณะทำงานชุดใหญ่ซึ่งมีพลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบตร.หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี ในวันพรุ่งนี้


อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีคำสั่งให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ด้วย ซึ่งล่าสุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้หารือร่วมกับ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีหรือปอศ. เกี่ยวกับการต้องแจ้งข้อหากับบรรดาบอสทั้ง 18 คน เพิ่มเติม


มีรายงานว่า สำหรับฐานความผิดที่จะแจ้งเพิ่มนั้น มีข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงินเป็นหลัก นอกจากนี้อาจมีข้อหาอื่นๆประกอบ เช่น ความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน รวมไปถึงข้อหาย่อยอย่างอั้งยี่และซ่องโจร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นขบวนการ ในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมด้วย


โดยการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้น ทีมสอบสวนจะมอบให้ให้พนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง เข้าไปแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมดในเรือนจำ ซึ่งคาดว่าจะสรุปข้อหาทั้งหมดที่จะแจ้งเพิ่มเติมได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งชุดพนักงานสอบสวนจะประสานงานกับทีมสืบสวนที่มีตำรวจ กองบังคับการปราบปราม เป็นตัวหลักในการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสถานะทรัพย์สินของผู้ต้องหาแต่ละราย เพื่อให้ได้หลักฐานโยงไปสู่การกระทำความผิดฐานฟอกเงินด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินแล้ว ทีมสอบสวนของสอบสวนกลางจะต้องหารือกันอย่างใกล้ชิดกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าจะมีการรับสำนวนไปดำเนินคดีต่อ ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากว่าเข้าหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษ ขณะนี้คาดว่าดีเอสไอก็กำลังพิจารณาอยู่ด้วย


ส่วนการขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ต้องหากลุ่มที่2นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐาน และให้ชุดสืบสวนแกะรอย ซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียก หรือหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มต่อไปอย่างแน่นอน อาทิ กลุ่มแม่ข่ายต่างๆ รวมไปถึงกลุ่มพนักงานของบริษัทบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสารที่มีผลทางกฎหมาย


ขณะเดียวกันวันนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ได้อายัดรถของกลางเพิ่มอีก 4 คัน เป็นรถของนายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือบอสพอล 3 คัน และรถตู้เบนซ์ของ นายกันต์ กันตถาวร 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่นายกันต์ได้รับจากนายวรัตน์พลเป็นของขวัญวันเกิด ก่อนตกเป็นผู้ต้องหาไม่กี่เดือน ซึ่งรถที่ได้เป็นของขวัญวันเกิดขนาดนั้นเป็นสีแดง แต่ตำรวจยึดมาเป็นสีดำ เนื่องจาก รถคันดังกล่าวใช้สติกเกอร์แร็พสีแดงปิดทับไว้ในตอนแรก

คุณอาจสนใจ

Related News