สังคม

สคบ.เตรียมเรียก 'บอสพอล-ดารา' เอี่ยว 'ดิไอคอน' ชี้แจง 16 ต.ค.นี้ พร้อมตั้งกก.สอบปมสินบนเทวดา

โดย panwilai_c

11 ต.ค. 2567

82 views

คืบหน้าการตรวจสอบการทำธุรกิจและธุรกรรมเครือข่ายของดิไอคอน โดยมีรายงานว่าตำรวจเตรียมขอหมายจับ กลุ่มผู้บริหาร-ดาราที่พัวพันธุรกิจ The icon ภายใน 48 ชั่วโมงนับจากนี้ หลังมีการตรวจค้นบริษัท และให้ส่งบัญชีธนาคารกว่า 120 บัญชี เพื่อตรวจสอบงบการเงินของบริษัท ว่าสอดคล้องกับรายได้จากการขายหรือไม่



วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และตำรวจ ปคบ. เข้าไปตรวจค้น บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ย่านรามอินทรา ซึ่งภายในบริษัท ยังมีผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทั้งหมด 15 รายการ



การเข้าไปตรวจค้นวันนี้ ต้องการรวบรวมหลักฐาน การประกอบกิจการ รวมถึงนำผลิตภัณฑ์สินค้าที่จำหน่าย ไปตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้ง ที่มีการประกาศว่า เป็นบริษัทที่มียอดขายถึง 5 พันล้านบาทต่อปีนั้น ต้องตรวจสอบว่าเป็นรายได้มาจากการขายผลิตภัณฑ์จริงหรือไม่



พันตำรวจเอก อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าตรวจค้นโกดังของ the icon group เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ พบว่ามีผลิตภัณฑ์ 15 รายการ แต่กลับพบว่ารายได้ของบริษัทบางปี สูงถึง 5 พันล้านบาท



นอกจากนี้ ยังพบสมุดบัญชีธนาคารกว่า 120 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีตั้งแต่กลุ่มลูกข่ายดาวน์ไลน์, ดารานักแสดง และผู้บริหาร ขณะนี้ได้ส่งไปให้ สำนักงาน ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีความเชื่อมโยง ที่เข้าข่ายเป็นการฟอกเงินหรือไม่



รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุอีกว่า ตอนนี้ตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ยืนยันว่าภายใน 24 ชั่วโมงนี้ จะขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องแน่นอน เนื่องจากความผิดดังกล่าว มีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี จึงสามารถขอออกหมายจับได้ทันที และหมายจับที่ออกนี้ อาจจะเป็นกลุ่มผู้บริหาร หรือดาราที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเข้าองค์ประกอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดในมูลฐานฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์



ส่วนธุรกิจขายตรงจะมีเส้นบางๆ ระหว่างธุรกิจขายตรงและแชร์ลูกโซ่ คือ ต้องตรวจสอบว่าวิธีจำหน่ายสินค้าเป็นการโปรโมทหรือการระดมทุน หากมีการระดมทุนจะเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ หรือ พ.ร.ก. กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็นความผิดตามมูลฐานการฟอกเงิน



ล่าสุดมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้จำนวน 161 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 62 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเกิน 200 คน



และวันนี้ บอย ปกรณ์ นักแสดงที่เป็นหนึ่งในพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ ได้ออกมาขอโทษและระบุว่าพร้อมรับผิดกับสิ่งที่ตัดสินใจผิด แต่วันนี้ตัดสินใจลาออกจากการ เป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัทแล้ว และพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ



ส่วนมีน พีชญา นักแสดงหญิงอีกคน ยอมรับว่าเป็นทั้งผู้บริหารรับผิดชอบด้านพีอาร์ และพรีเซนเตอร์ และได้ฉีกสัญญาทำงานกับบริษัทแล้ว แต่ยังตอบไม่ชัดเจนว่า ได้ค่าตอบแทนจากการเป็นผู้บริหารหรือไม่ เพียงแต่บอกว่าได้ค่าตัวในฐานะพรีเซนเตอร์เท่านั้น



ด้าน นส.จิราพร สินธุไพร ในฐานะควบคุม สคบ. ระบุว่าขอเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยเตรียมเรียก บอสพอล และดารา มาชี้แจงวันที่ 16 ตุลาคม นี้ และได้ตั้งกรรมการสอบ คลิปเสียง ที่ระบุว่ามีเทวดารับสินบนใน สคบ.

คุณอาจสนใจ