สังคม
สว.ถกญัตติด่วน รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้-นายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบรถติดก๊าซทั่วประเทศ
โดย panisa_p
7 ต.ค. 2567
57 views
ความเคลื่อนไหวจากเหตุโศกนาฏกรรม-รถบัสนักเรียนไฟไหม้ วันนี้นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเรื่องความปลอดภัยทางถนน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน โดยการตั้งคณะกรรมการฯ ตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะที่ติดตั้งก๊าซ NGV ภายใน 15 วัน ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุ กรมการขนส่งทางบก เข้าชี้แจง กรรมาธิการคมนาคมของสมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือกรณีการเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้ก๊าซ CNG ขณะที่การประชุมวุฒิสภ าวันนี้ ก็มีการพิจารณาญัตติด่วนในเรื่องนี้ด้วย
การประชุมวุฒิสภาวันนี้ สว.ทุกคนนัดกันใส่ชุดสีดำมาประชุม เพื่อไว้อาลัยให้กับครูและนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม และก่อนเข้าสู่วาระการประชุม มีการยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที
วาระสำคัญเรื่องหนึ่งในการประชุมวันนี้ คือการพิจารณาญัตติด่วนที่เสนอโดย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร "เรื่องขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น จากกรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน" ซึ่งก็มี สว.หลายคน ลุกขึ้นอภิปราย
สว.รัชนีกร ทองทิพย์ ขอลุกขึ้นอภิปรายตั้งแต่เริ่ม เข้าใจความสูญเสีย และเข้าใจว่าเด็กอายุเท่านั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงมองว่า สังคมไทยต้องกลับมาแก้ไขอย่างจริงจัง
ขณะที่ พล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์ ลุกขึ้นอภิปราย เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมลาออก โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือเซวอล ประเทศเกาหลีใต้เป็นบรรทัดฐาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ขณะนั้น ได้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ขณะที่ สว.อลงกต วรกี อภิปรายว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องของการยักยอก ฉ้อโกงและทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงเสนอให้ดำเนินคดีโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะเป็นคดีอาญาและเป็นการหลบเลี่ยงกฎหมาย
ญัตินี้มีสว.ประมาณ 20 คน ลุกขึ้นอภิปราย ใช้เวลารวมประมาณ 4 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นำความเห็นข้อเสนอแนะของสมาชิก ส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี ไปประกอบการพิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป
อีกด้านหนึ่ง คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา มีนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภาเป็นประธานฯ มีวาระพิจารณากรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ทั้งกรมการขนส่งทางบก กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย และศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยสำนักวิศวรรมยานยนต์ มาชี้แจงแทนอธิบดีกรมขนส่งทางบก ที่ติดประชุมกับนายกรัฐมนตรี ใจความช่วงหนึ่งระบุถึงสภาพรถ ซึ่งมีการจดทะเบียน 2 ครั้ง คือ ปี 2513 และจดทะเบียนใหม่ในปี 2561 โดยทางบริษัทได้ทำประกันอุบัติเหตุไว้กับ"บริษัทมิตรแท้ประกันภัย" และ"วิริยะประกันภัย"
ระหว่างนั้น ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ซักถามถึงการจดทะเบียนรถคันเกิดเหตุ ในครั้งแรกเป็นการจดทะเบียนใช้ชนิดเชื้อเพลิงก๊าซ CNG หรือไม่ ประเด็นนี้ผู้อำนวยสำนักวิศวรรมยานยนต์ ชี้แจงว่า ในครั้งแรกจดทะเบียนใช้เครื่องยนต์ดีเซล จากนั้นได้ถามย้ำว่า "เปลี่ยนมาใช้ระบบก๊าซ CNG ช่วงปีไหน-อย่างไร" เเต่หน่วยงานที่ชี้เเจง บอกว่า "ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลต้องกลับไปสืบย้อนหลัง"
หลังการประชุม นายวุฒิชาติ แถลงข้อสรุปการเรียกหน่วยงานมาชี้แจง เรื่องมาตรการแก้ไขในอนาคต หลัก ๆ จะต้องมีการกำหนดอายุการใช้งานของรถบัส ให้เข้มงวดมากขึ้น เช่น คลัสซีควรมีอายุเท่าไหร่ เปลี่ยนตัวถังได้ไม่เกินกี่ครั้ง การตรวจสภาพรถเชิงรุกจะต้องมอนิเตอร์กันทุกเดือน ป้องกันการไปดัดแปลงเพิ่มเติม หลังจากผ่านการตรวจไปแล้ว พร้อมกับย้ำว่า กรณีรถบัสคันเกิดเหตุ ได้ให้ข้อสังเกตทางกรมการขนส่งทางบก ว่าต้องพิจารณาลงโทษให้หนัก เเละอาจถึงขั้นยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการด้วย
ด้านนายเสกสม รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พูดถึงความคืบหน้าผลการตรวจสอบสภาพรถบัส ที่พบว่าเพลาล้อหัก ซึ่งนักข่าวถามว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องถังก๊าซที่เกินจากจดทะเบียนหรือไม่ เพราะมีถึง 11 ถัง จากที่กำหนดไว้ 6 ถัง ซึ่งรองอธิบดีฯ ชี้เเจงในเบื้องต้น น่าจะมาจากน้ำหนักที่บรรทุก แต่ความชัดเจน ยังต้องรอผลจากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน"
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเรื่องความปลอดภัยทางถนน ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อยากให้แนะนำเรื่องระบบความปลอดภัยเหมือนการโดยสารเครื่องบิน และดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี บอกว่า ที่ประชุมเห็นชอบดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนภายใน 15 วัน โดยตั้งคณะกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะที่ติดตั้งก๊าซ NGV ซึ่งจากข้อมูลมีทั้งหมด 13,426 คัน ประกอบด้วย รถบัสรับเหมา 1,336 คัน รถรับจ้างประจำทาง 5,967 ค้น และรถตู้หรือรถมินิบัส 6,123 คัน
หากตรวจสอบพบสภาพไม่พร้อมใช้งาน ให้ยกเลิกการใช้รถอย่างเด็ดขาด คันไหนตรวจสภาพแล้วพร้อมใช้งาน ให้ออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนอาการของนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ล่าสุด สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือโรงพยาบาลเด็ก ออกเเถลงการณ์ ขณะนี้ครบสัปดาห์แล้ว ล่าสุดพบว่าอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ทั้งหมดดีขึ้น ตอบสนองต่อการรักษา ไม่พบการติดเชื้อ ไม่มีปัญหาข้อติดยึด สามารถใช้งานมือและแขนทั้ง 2 ข้างได้ปกติ จากผลการประเมินทางด้านจิตใจ ผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ ผ่อนคลายมากขึ้น นอนหลับได้ ทั้งนี้ทีมจิตเวช จะประเมินด้านจิตใจผู้ป่วยและญาติอย่างต่อเนื่อง และติดตามอาการเป็นระยะต่อไป