มติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เลือก 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั่ง ผบ.ตร.คนที่ 15

วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. โดยมีวาระพิเศษแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15 ผลการประชุมมีมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เลือกพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็นผบ.ตร.คนที่ 15



นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วาระพิเศษพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยในที่ประชุมประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร เป็นประธาน น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร.  นายปิยะวัฒน์ ศิวะรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. ในฐานะก.ตร. โดยตำแหน่ง  พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก  พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์  พล.ต.อ.วินัย ทองสอง  นายฉัตรชัย พรหมเลิศ  ศาสตราจารย์ศุภชัย ยาวะประภาษ และพล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร ด้าน รศ.ประทิต สันติประภพ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลาการประชุม



ส่วน น.ส.แพทองธาร ได้งดออกเสียงในฐานะประธานที่ประชุม และด้วยองค์ประชุมลงมติเป็นเอกฉันท์เรียบร้อย ส่วนขั้นตอนการเสนอชื่อคัดเลือกผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 มาตรา 78 ระบุว่าให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยก่อนการพิจารณาวาระ เสนอชื่อ ผบ.ตร. จะมีการแสดงผลงานของ รองผบ.ตร.ทุกท่านที่อยู่ในหลักเกณฑ์ได้นับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. ก่อนเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พล.ต.อ.ไกรบุญ และพล.ต.อ.ธนา ออกจากห้องประชุม เนื่องจากถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย



โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับ 1 ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15



พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันนท์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ในฐานะเลขานุการ กล่าวว่าก่อนหน้านี้แคนดิเดตทั้ง 3 ท่านได้นำส่งข้อมูลส่วนตัวและผลการดำเนินการ ไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีล่วงหน้าเพื่อประกอบการพิจารณาวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เสนอเพียง 1 ชื่อเและในที่ประชุมฯ ได้ทำการอภิปรายตรวจสอบข้อมูลทั้งประวัติการรับราชการ ความประพฤติ ลำดับอาวุโส ทุกอย่างอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน จนนำมาสู่การลงมติเป็นเอกฉันท์ไม่มีการคัดค้าน กรอบระยะเวลาในที่ประชุมเป็นไปอย่างเหมาะสม



ส่วนเรื่อง ที่ ป.ป.ช. มีการกล่าวหา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กรณีการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ ของตำรวจ 191 เรื่องนี้ได้มีการพิจารณา ก่อนที่จะมีการประชุมวาระวันนี้ อย่างถี่ถ้วนแล้ว แต่ ป.ป.ช. ยังไม่มีการตัดสินความผิด หรือออกคำสั่งใดๆ จึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ในส่วนการพิจารณา แต่งตั้งตั้งแต่ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึงผู้บังคับการมีการขยายระยะเวลาการแต่งตั้ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 15 ธันวาคม 2567 หรืออาจจะเสร็จเร็วกว่านั้น



พล.ต.ท.อนุชา กล่าวถึง กรณีที่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้พิจารณาคุ้มครองตำแหน่งชั่วคราว ว่า ขั้นตอนดังกล่าวขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากผลออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะกลับมาพิจารณาคำสั่งของศาล เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วันนี้



ส่วนผลงานของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการภาค 8 ได้ลงพื้นที่สืบสวนคลี่คลายคดีฆ่าแหม่ม ที่จ.ภูเก็ต ในปี 2564 จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2566



ขณะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เป็นผู้บัญชาการเหตุกราดยิงในศูนย์การค้าย่านปทุมวัน และยังดูแลงานด้านปราบปรามยาเสพติด ดูแลงานศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกฟอกเงิน และเป็นหัวหน้าคระทำงานพัฒนาระบบแจ้งความออนไลน์ และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เริ่มเป็นที่รู้จัก หลังจากได้ขึ้นมาเป็น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี2567 โดยขณะนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกมองว่า มีปมปัญหาความขัดแย้งจนต้องให้ตำรวจระดับสูง 2 คนโยกย้ายออกจากการปฏิบัติหน้าที่เดิม ทำให้ถูกจับตามองตั้งแต่ตอนนั้นว่าจะได้ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 15